ฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone) หรือที่หลายคนเรียกว่า “ฮอร์โมนแห่งความเป็นชายชาตรี” เป็นฮอร์โมนที่มีบทบาทสำคัญต่อทั้งสุขภาพร่างกายและจิตใจ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสมรรถภาพทางเพศเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีผลต่อการสร้างกล้ามเนื้อ กระดูก ขนตามร่างกาย อารมณ์ รวมถึงความมั่นใจในชีวิตประจำวัน
หลายคนอาจสงสัยว่า ฮอร์โมนเพศชายคืออะไร มีหน้าที่อะไรบ้าง ฮอร์โมนเพศชายมีกี่ชนิด และถ้ามีมากหรือน้อยเกินไปจะเกิดผลเสียอย่างไร บทความนี้จะพาคุณทำความเข้าใจเรื่อง ฮอร์โมนเพศชาย Testosterone ให้ลึกขึ้น พร้อมอธิบายภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชาย อาการที่ควรรู้ และวิธีดูแลสุขภาพให้สมดุล
ฮอร์โมนเพศชาย คืออะไร
ฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone) เป็นฮอร์โมนหลักที่จะกำหนดความเป็นชายเรา ทั้งรูปร่าง น้ำเสียงทุ้ม/ต่ำ การมีหนวดเครา กล้ามเนื้อ ความต้องการทางเพศ รวมถึงการสร้างอสุจิ โดยร่างกายจะผลิตฮอร์โมนนี้จาก “อัณฑะ” และจะมีปริมาณสูงสุดในช่วงวัย 20 ต้น ๆ ก่อนจะค่อย ๆ ลดลงตามอายุ
ฮอร์โมนเพศชายมีกี่ชนิด
จริงๆ แล้วฮอร์โมนเพศชายที่สำคัญก็คือ Testosterone เพียงตัวเดียว แต่ในร่างกายผู้ชายยังมีฮอร์โมนอื่นอีก เช่น ฮอร์โมน Estrogen ซึ่งจะมีเพียงเล็กน้อยเพื่อรักษาสมดุล ส่วนผู้หญิงเองก็มีฮอร์โมน Testosterone เช่นกัน แต่จะปริมาณที่น้อยมากเมื่อเทียบกับผู้ชาย
สิ่งที่มักเข้าใจผิดเกี่ยวกับฮอร์โมนเพศชาย
หลายคนเชื่อว่า “ฮอร์โมนเพศชายยิ่งเยอะยิ่งดี” ซึ่งมันไม่จริงเลย หากสูงเกินไป ร่างกายจะเปลี่ยนบางส่วนไปเป็น Estrogen เพื่อรักษาสมดุล และอาจทำให้เกิดอารมณ์ก้าวร้าวมากขึ้น
ระดับของฮอร์โมนเพศชายปกติควรมีเท่าไหร่?
โดยทั่วไป ระดับฮอร์โมนเพศชายโดยปกติจะอยู่ที่ 300–1,000 นาโนกรัม/เดซิลิตร ค่าเฉลี่ยประมาณ 679 นาโนกรัม/เดซิลิตร หากคุณมีสุขภาพดีควรยจะอยู่ในช่วง 400–600 นาโนกรัม/เดซิลิตร หลังอายุ 40 ปีขึ้นไป ระดับนี้มักจะลดลง และอาจเข้าสู่ภาวะ “พร่องฮอร์โมนเพศชาย” ได้
ฮอร์โมนเพศชายต่ำส่งผลอะไรบ้าง
หากขาดฮอร์โมนเพศชายในวัยรุ่น อาจทำให้พัฒนาการทางร่างกายช้ากว่าปกติ เช่น เสียงไม่แตก หนวดเคราน้อย กล้ามเนื้อไม่แข็งแรง ส่วนในผู้ใหญ่ หากฮอร์โมนเพศชายต่ำเกินไป จะกระทบต่อสมรรถภาพทางเพศ อารมณ์ และคุณภาพชีวิต
สาเหตุที่ส่งผลให้ระดับฮอร์โมนต่ำลง
- การมีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวานชนิดที่2 หรือโรคอ้วน
- การมีปัญหาสุขภาพไต โรคตับอักเสบ โรคเอดส์ การได้รับบาดเจ็บที่อวัยวะเพศ
- การรักษาโรคมะเร็ง ด้วยวิธีทำทำรังสีบำบัด คีโมบำบัด
- การติดสุรา
ซึ่งการมีระดับฮอร์โมนเพศชายที่ต่ำลง หรือภาวะฮอร์โมนเพศต่ำ จะส่งผลต่อสุขภาพร่างกายด้วย หรือใครไม่ทราบว่าตัวเองมีภาวะฮอร์โมนเพศต่ำ ให้สังเกตอาการต่อไปนี้
- ร่างกายมีความแข็งแรงลดลงอย่างเห็นได้ชัด
- มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น มีอาการปวดเมื่อยตามข้อต่อ กระดูก
- มักมีปัญหาเรื่องการนอนไม่ค่อยหลับ หรือหลับ แต่ไม่สนิท
- และอามีอาการเซื่องซึมหดหู่ ในบางท่าน รู้สึกตัวเองมีความกระตือรือร้นน้อยลง
- มีมีความต้องการทางเพศลดน้อยลง
บทความที่เกี่ยวข้อง
สังเกตอาการที่อาจบอกได้ว่า คุณอาจจะมีภาวะฮอร์โมนเพศต่ำ
- รู้สึกว่าอวัยวะเพศไม่แข็งตัวได้ดีเหมือนปกติ
- ร่างกายไม่ค่อยมีเรี่ยวแรง อาจรู้สึกเพลียเหมือนพักผ่อนไม่เต็มที่
- ความรู้สึกทางเพศลดลงอย่างเห็นได้ชัด
- รู้สึกมีเครียดได้ง่าย กังวลและไม่ค่อยมั่นใจ
- อารมณ์แปรปรวนมากกว่าปกติ
ภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชาย หรือ ภาวะฮอร์โมนเพศต่ำ หลักๆแล้วมีวิธีการรักษาอยู่สองทาง คือ
- การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ในการใช้ชีวิตของคุณ ลดความเสี่ยงที่ทำให้เกิดภาวะฮอร์โมนเพศต่ำ
- งดการดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ควบคุมน้ำหนักไม่ให้น้อยเกินไปหรือมากเกินไป
- พักผ่อนให้เพียงพอ พยายามไม่ให้ตนเองเครียดเกินไป
- รับประทานอาหารให้เหมาะสม มีประโยชน์
- การรักษาด้วยการ ให้ฮอร์โมนเพศชายทดแทน
ในปัจจุบันการให้ฮอร์โมนเพศชายทดแทน เพื่อปรับสมดุลการทำงานของระบบต่างๆของร่างกายให้เป็นปกติ รวมถึงความต้องการทางเพศและสมรรถภาพทางเพศ ซึ่งทุกวันนี้มียาฮอร์โมนเพศชายทดแทนให้เลือกหลากหลายมาก ทั้งแบบยาสำหรับรับประทาน ยาฉีด ยาสำหรับทา ลักษณะเป็นเจลใส หรือแบบแผ่นแปะ ขึ้นอยู่กับคำแนะนำของแพทย์ในการเลือกใช้ยาให้เหมาะสมกับคุณ
Q&A: ฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone)
ฮอร์โมนเพศชาย หรือ Testosterone เป็นฮอร์โมนที่กำหนดลักษณะความเป็นชาย เช่น การมีขนขึ้นตามร่างกาย เสียงทุ้ม การสร้างกล้ามเนื้อ ความต้องการทางเพศ และการสร้างอสุจิ โดยร่างกายผู้ชายจะผลิตฮอร์โมนนี้จากอัณฑะมากที่สุดช่วงวัย 20 ต้น ๆ
หลัก ๆ คือ Testosterone เป็นฮอร์โมนตัวเดียวที่มีบทบาทสำคัญ แต่ในร่างกายผู้ชายก็ยังมีฮอร์โมนเพศหญิง (Estrogen) อยู่บ้างในปริมาณน้อยเพื่อความสมดุล ขณะที่ผู้หญิงเองก็มี Testosterone เช่นกัน แต่ปริมาณจะต่ำกว่า Estrogen มาก
ไม่จริง! ถ้ามีระดับ Testosterone สูงเกินไป ร่างกายจะเปลี่ยนส่วนเกินเป็น Estrogen เพื่อรักษาสมดุล และอาจทำให้เกิดความก้าวร้าวมากขึ้นด้วย
ระดับฮอร์โมนโดยทั่วไปควรอยู่ระหว่าง 300 – 1,000 นาโนกรัม/เดซิลิตร ค่ากลางเฉลี่ยราว ๆ 679 นาโนกรัม/เดซิลิตร ถ้าสุขภาพแข็งแรงมักอยู่ที่ 400–600 นาโนกรัม/เดซิลิตร
ถ้าเกิดในวัยรุ่น อาจส่งผลต่อพัฒนาการ เช่น อวัยวะเพศไม่เจริญเต็มที่ ไม่มีเสียงทุ้ม หนวดเคราน้อย กล้ามเนื้อไม่แข็งแรง
ถ้าเกิดในผู้ใหญ่หรือสูงวัย จะมีปัญหาอวัยวะเพศแข็งตัวยาก สมรรถภาพลดลง อารมณ์แปรปรวน และพลังงานในชีวิตประจำวันลดลง
นอกจากอายุแล้ว ยังมีปัจจัยอื่น เช่น ความเครียด พักผ่อนไม่พอ โรคบางชนิด การใช้ยาบางประเภท รวมถึงการใช้สารสเตียรอยด์ผิดวิธี
การรักษามีทั้งการปรับพฤติกรรม เช่น ออกกำลังกาย กินอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้พอ ไปจนถึงการบำบัดด้วย ฮอร์โมนทดแทน (Testosterone Replacement Therapy: TRT) ซึ่งต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์


รับคำปรึกษาเบื้องต้น
สอบถามข้อมูลการรักษาและบริการเพิ่มเติม นัดหมายล่วงหน้า การเดินทางมาคลินิก
LINE:@ETERNITYCLINIC4
Facebook:@Eternityclinicthai
นายแพทย์สืบพงษ์ เอ่งฉ้วน
ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ใบอนุญาตที่ 29458 ให้ไว้ ณ วันที่ 1 เมษายน 2546
เป็นผู้มีความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม สาขาศัลยศาสตร์ เลขที่ 18321/2551
ให้ไว้ ณ วันที่ 10 กรกฎาคม 2551 (General surgeon)
เป็นผู้มีความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม สาขาศัลยศาสตร์ยูโรวิทยา เลขที่
22611/2554 ให้ไว้ ณ วันที่ 1 กรกฎาคม 2554 (Urologist)
ประกาศนียบัตรเวชศาสัตร์ทางเพศ ได้รับการรับรองโดย สมาคมเพศศาสตร์คลินิกและเวชศาสตร์
ทางเพศแห่งประเทศไทย (TACSM)
บทความล่าสุด
การใช้การฝังอุปกรณ์ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ (Penile implants)
ภาวะเสื่อมสมรรถ
เทคนิคการควบคุมการหลั่งเร็ว: การฝึกฝนและการใช้เทคนิคพิเศษ
หนึ่งในปัญหาทาง
การใช้ยาเพื่อเพิ่มความยาวอวัยวะเพศ: ประสิทธิภาพและความปลอดภัย
หยุดที่จะมองข้า
ผลข้างเคียงจากการเพิ่มขนาดอวัยวะเพศ ด้วยการใช้ยาและการผ่าตัด
การมีขนาดอวัยวะ
ขลิบไร้เลือด ต่างจากขลิบปกติอย่างไร
น้องชายมีกลิ่นเ
ขลิบมีกี่แบบ ขลิบแบบไหนดีที่หมอเบียร์แนะนำ
หลายคนยังไม่ทรา
ขลิบดีไหม ข้อดีของการขลิบที่คุณอาจยังไม่รู้
หลายคนอาจสงสัยว
ขลิบคืออะไร ทำไมถึงต้องขลิบหนังหุ้มปลาย
ขลิบคืออะไร ทำไ