ขลิบไร้เลือดแก้หนังหุ้มปลายตีบ โดย นพ.สืบพงษ์ เอ่งฉ้วน

หนังหุ้มปลายตีบ (Phimosis) และ หนังหุ้มปลายรัด (Paraphimosis) คือภาวะที่หนังหุ้มปลายอวัยวะเพศไม่สามารถรูดเปิดได้ตามปกติ ซึ่งอาจเกิดขึ้นตั้งแต่วัยเด็ก วัยรุ่น หรือในผู้ใหญ่ที่มีภาวะอักเสบ ติดเชื้อ หรือโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน

อาการที่พบได้ เช่น

• รูดหนังหุ้มปลายไม่ได้
• เจ็บเวลาปัสสาวะหรือแข็งตัว
• มีการสะสมของคราบขี้เปียก
• ปลายอวัยวะเพศบวมแดง อักเสบ
• บางรายปัสสาวะไม่ออก ต้องรีบรักษา

หนังหุ้มปลายตีบ คืออะไร?

ภาวะหนังหุ้มปลายตีบ หมายถึงการที่ผิวหนังปลายอวัยวะเพศ ตีบแคบ หรือ แข็งไม่ยืดหยุ่น จนไม่สามารถรูดเปิดเพื่อทำความสะอาดหรือเผยส่วนหัวได้ ส่งผลให้เกิดการสะสมของคราบสกปรก (smegma) และนำไปสู่การอักเสบหรือติดเชื้อในระยะยาว

แบ่งได้ 2 ประเภทหลัก

• Physiologic Phimosis พบในเด็ก เป็นภาวะปกติที่หนังหุ้มยังไม่เปิด แต่จะดีขึ้นเองเมื่อโต
• Pathologic Phimosis เกิดจากการอักเสบ ติดเชื้อ หรือแผลเป็น มักพบในวัยผู้ใหญ่และต้องรักษา

สาเหตุของหนังหุ้มปลายตีบ

• ติดเชื้อบริเวณปลายอวัยวะเพศ
• การอักเสบเรื้อรังหรือระคายเคืองจากการดูแลไม่ถูกวิธี
• เบาหวาน โดยเฉพาะเมื่อมีการใส่สายสวนปัสสาวะ
• อายุที่มากขึ้น ทำให้ผิวหนังเสียความยืดหยุ่น
• เนื้อเยื่อแผลเป็นจากการรูดเปิดผิดวิธี

วิธีรักษาภาวะหนังหุ้มปลายตีบ

• การทายา (กรณีไม่รุนแรง) ใช้ครีมสเตียรอยด์เฉพาะที่เพื่อช่วยให้หนังหุ้มปลายยืดหยุ่นและรูดได้ง่ายขึ้น
• การผ่าตัดขลิบ (Circumcision) ในกรณีที่หนังหุ้มตีบรุนแรง หรือมีการอักเสบเรื้อรัง แนะนำให้ทำการขลิบ ซึ่งปัจจุบันมีเทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า ขลิบไร้เลือด

ขลิบไร้เลือด (Staple Circumcision) คืออะไร?

ขลิบไร้เลือด เป็นการใช้เครื่องมืออัตโนมัติในการขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชาย โดย ไม่ต้องเย็บแผล และมีการห้ามเลือดในตัว ทำให้

•  เจ็บน้อย
• เสร็จภายใน 5–10 นาที
• แผลเรียบ สวย
• ฟื้นตัวเร็ว

นพ.สืบพงษ์ เอ่งฉ้วน  เลข ว.29458 ศัลยแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะเฉพาะทาง และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพศชาย ได้คิดค้นเทคโนโลยีขลิบไร้เลือดรุ่นล่าสุด Titanium Stapler DCSC ที่พัฒนาความปลอดภัยและความสวยงามของแผลได้เหนือกว่ารุ่นเดิม

จุดเด่นของเครื่อง DCSC รุ่นใหม่

• ใบมีดคมขึ้น แผลเรียบ ไม่มีรอยตะขาบ
• Silicone รองตัวเย็บ เพิ่มการห้ามเลือด
• ตัวเย็บ Titanium แข็งแรง แต่หลุดออกง่าย ไม่ฝังลึก
• แผลหายไวกว่าแบบดั้งเดิมหลายเท่า

สิ่งที่ควรรู้เมื่อมีภาวะหนังหุ้มปลายตีบ

• ห้ามฝืนรูดด้วยตนเองหรือใช้ครีมตามอินเทอร์เน็ต
• หากคุณเป็นเบาหวาน ต้องรีบพบแพทย์เมื่อมีอาการบวม/เจ็บ
• หลังใส่สายสวนปัสสาวะ ต้องแน่ใจว่ารูดหนังกลับมาปิด
• หากรูดหนังหุ้มปลายกลับไม่ได้ ควรพบแพทย์ทันที

หนังหุ้มปลายตีบ ไม่ใช่เรื่องเล็ก ควรรักษาอย่างถูกวิธี หากคุณมีภาวะหนังหุ้มปลายตีบ เจ็บตอนแข็งตัว หรือดูแลความสะอาดได้ยาก อย่าปล่อยไว้จนเกิดการอักเสบ การขลิบไร้เลือด เป็นทางเลือกที่ปลอดภัย เห็นผล และฟื้นตัวไว เหมาะสำหรับผู้ชายทุกวัยที่ต้องการดูแลสุขภาพอย่างมั่นใจ

Q&A คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการขลิบไร้เลือดแก้หนังหุ้มปลายตีบ โดย นพ.สืบพงษ์ เอ่งฉ้วน

Q : หนังหุ้มปลายตีบคืออะไร?

A : หนังหุ้มปลายตีบ (Phimosis) คือภาวะที่ผิวหนังบริเวณปลายอวัยวะเพศแคบหรือแข็ง ไม่สามารถรูดเปิดได้ตามปกติ ส่งผลให้ทำความสะอาดยาก และเสี่ยงติดเชื้อในระยะยาว

Q : หนังหุ้มปลายตีบเกิดจากอะไร?

A : สาเหตุได้แก่ การติดเชื้อบริเวณปลายอวัยวะเพศ, การอักเสบเรื้อรัง, โรคเบาหวาน, อายุที่มากขึ้นจนผิวหนังเสียความยืดหยุ่น หรือเกิดจากแผลเป็นจากการรูดเปิดผิดวิธี

Q : ขลิบไร้เลือด (Staple Circumcision) คืออะไร?

A : ขลิบไร้เลือดเป็นการใช้เครื่องมืออัตโนมัติที่ตัดและเย็บพร้อมกัน มีการห้ามเลือดในตัว ไม่ต้องเย็บแผล ใช้เวลาเพียง 5 – 10 นาที เจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว และแผลเรียบสวย

Q : การขลิบไร้เลือดมีข้อดีอะไรบ้าง?

A : ข้อดีคือ เจ็บน้อย, ใช้เวลาสั้น, ฟื้นตัวไว, แผลเรียบสวย, ลดการติดเชื้อ, ทำความสะอาดง่าย และช่วยเสริมความมั่นใจในสุขภาพเพศชาย

Q : หากไม่รักษาหนังหุ้มปลายตีบจะเกิดอะไรขึ้น?

A : อาจทำให้ติดเชื้อบ่อย, ปัสสาวะลำบาก, เจ็บเวลามีเพศสัมพันธ์, เสี่ยง Paraphimosis (หนังรัดไม่สามารถรูดกลับได้) ซึ่งอาจอันตรายถึงขั้นต้องรักษาเร่งด่วน

คลิกที่นี่ ปรึกษาการขลิบไร้เลือด กับ หมอเบียร์ นพ.สืบพงษ์ เอ่งฉ้วน แพทย์เฉพาะทางศัลยศาสตร์ยูโรวิทยา (Urology) เลข ว.29458

นพ.สืบพงษ์ เอ่งฉ้วน

ใบอนุญาตเลขที่ 29458

See Full Bio