หลังจากที่หลายคนเริ่มสนใจการขลิบ ไม่ว่าจะเพื่อสุขอนามัย หรือเพื่อความมั่นใจในรูปลักษณ์ หลายคนอาจเริ่มเจอคำว่า ขลิบแบบไหน เพราะมีทั้งแบบ High, Low, Tight, หรือ Loose ซึ่งอาจฟังดูงงและไม่เข้าใจว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร และแบบไหนคือ “ขลิบที่สวย”
วันนี้เราจะมาอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ พร้อมคำแนะนำจาก นพ.สืบพงษ์ เอ่งฉ้วน (เลข ว.29458) ศัลยแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะเฉพาะทางด้านสุขภาพชาย

เทคนิคการขลิบ แยกอย่างคร่าวๆได้ดังนี้
- การขลิบเล็กน้อย (Minimal) มีจุดมุ่งหมายเพื่อคงลักษณะทางกายภาพ และกลไกการร่วมเพศแบบเดิมได้และจะตัดเฉพาะหนังที่เกินจากปลายอวัยวะเพศ ทำให้คนที่มีหนังหุ้มปลายยาวมาก หรือปลายสุดแคบทำให้รูดเปิดอวัยวะเพศได้ยาก การผ่าตัดช่วยให้สามารถเปิดหัวอวัยวะเพศทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น
- การขลิบบางส่วน (Partial) ตัดปลายออกบางส่วน จะเหลือผิวหนังปิดหัวอวัยวะเพศได้บางส่วนเวลาอ่อนตัว แต่เวลาแข็งตัวจะไม่ปิดปลายท่อปัสสาวะ สามารถเปิดออกได้ทั้งหมด
- การขลิบที่ไม่ตึงมาก (Loose) หลังการผ่าตัดส่วนหัวของอวัยวะเพศจะเปิดออกหมด เวลาที่อ่อนตัวจะมีผิวหนังย่นๆอยู่บริเวณติดขอบของอวัยวะเพศ ยกเว้นเวลาที่อวัยวะเพศอ่อนตัวมากกว่าปกติ เช่นอากาศเย็นมาก ๆ อาจจะมีผิวหนังคลุมขอบของอวัยวะเพศได้ ขณะที่แข็งตัวผิวหนังก็ยังไม่ตึงมากและสามารถขยับผิวหนังได้อีกบ้าง ข้อดีคือเวลาใส่กางเกงในว่ายน้ำหรือกางเกงใน ผิวหนังที่มาปิดอยู่ที่ขอบของอวัยวะเพศ จะช่วยให้ไม่เห็นรูปร่างของอวัยวะเพศชัดมากเกินไป
- แบบตึง (Tight) แบบนี้จะตัดหนังหุ้มปลายอวัยวะมากทำให้ไม่มีผิวหนังห้อยๆ บริเวณขอบของอวัยวะเพศในระยะอ่อนตัวเวลาใส่กางเกงใน หรือกางเกงว่ายน้ำก็จะเห็นรูปร่างหัวอวัยวะเพศชัดเจน เวลาที่แข็งตัวจะไม่สามารถขยับผิวหนังขึ้นลงได้
จริงๆ แล้วในเมืองไทย ปัญหาเรื่องนี้เราพบได้น้อยมาก สาเหตุก็เพราะเนื่องจากส่วนใหญ่จะแล้วแต่คุณหมอที่ทำให้ ซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับเทคนิคและความชำนาญของคุณหมอในแต่ละคน แต่สำหรับในต่างประเทศนั้น การขลิบเคาทำกันเป็นกิจวัตร ก็เลยมีการปรับเปลี่ยนประยุกต์ หรือมีออปชั่นเสริมต่าง ๆ เข้ามาอย่างที่หลายท่านเคยได้ยิน ว่ามี high low loose tight
นายแพทย์สืบพงษ์ เอ่งฉ้วน จะมาบอกการขลิบแบบต่างๆ ให้ทุกท่านเห็นภาพและเข้าใจ
แบบ High loose
- รอยการขลิบอยู่ใต้จากบริเวณส่วนคอหยัก
- รอยต่างของสีจะสังเกตเห็นได้ค่อนข้างยาก เนื่องจาก inner foreskin ได้ถูกเอาออกไปเกือบหมด
- เวลาอ่อนตัว จะมีหนังย่น ๆ เหลือเพียงเล็กน้อย
- เส้นประสาทบริเวณหนังด้านในจะถูกเอาออกไป
- มีโอกาสจะต้องขลิบซ้ำได้มากถ้าหากผลลัพธ์ไม่เป็นที่น่าพอใจ
แบบ High tight
- ระยะห่างระหว่างรอยขลิบกับคอหยักประมาณ 10 mm
- ปลายประสาทส่วนใหญ่ยังอยู่ด้านในของผิวหนังและสามารถถูกกระตุ้นได้อย่างเต็มที่
- เวลาอ่อนตัวจะเหลือหนังมากองเพียงเล็กน้อยบริเวณคอหยัก
- จะเห็นความต่างของสีผิวค่อนข้างมากระหว่าง inner และ outer foreskin ซึ่งบางคนบอกชอบแต่บางคนอาจไม่ชอบได้
แบบLow loose
- มีรอยขลิบอยู่ใต้คอหยัก อาจมีส่วนของหนังบริเวณลำมาคลุมส่วนหัวได้
- รอยต่างของสีจะสังเกตเห็นได้ค่อนข้างยาก เนื่องจาก inner foreskin ได้ถูกเอาออกไปเกือบหมด
- เส้นประสาทบริเวณหนังด้านในจะถูกเอาออกไป
- มีโอกาสจะต้องขลิบซ้ำได้มากถ้าหากผลลัพธ์ไม่เป็นที่น่าพอใจ
- เวลาอ่อนตัว เนื่องจากหนังที่ยังเหลืออยู่มาก ก็ทำให้มีหนังมากองอยู่บริเวณใต้คอหยัก ซึ่งทำให้ดูเหมือนคนมีหนังหุ้มปลายอยู่
- ทำให้ดูแลความสะอาดทำได้ไม่สะดวกพอ เพราะจะเหมือนกับคนที่ยังไม่ได้ขลิบ
แบบ Low tight
- มีระยะห่างอย่างน้อยที่สุด 10 mm ระหว่างรอยขลิบและส่วนหัวแต่ยังมีบางส่วนสามารถมากองบริเวณใต้คอหยักได้
- ปลายประสาทส่วนใหญ่ยังอยู่ด้านในของผิวหนังและสามารถถูกกระตุ้นได้อย่างเต็มที่
- เวลาอ่อนตัว เนื่องจากหนังที่ยังเหลืออยู่มาก ก็ทำให้มีหนังมากองอยู่บริเวณใต้คอหยัก ซึ่งทำให้ดูเหมือนคนมีหนังหุ้มปลายอยู่แต่รูดขึ้นไป
- ทำให้ดูแลความสะอาดทำได้ไม่สะดวกพอ เพราะจะเหมือนกับคนที่ยังไม่ได้ขลิบ
- จะเห็นความต่างของสีผิวค่อนข้างมากระหว่าง inner และ outer foreskin ซึ่งบางคนบอกชอบแต่บางคนอาจไม่ชอบได้
จากที่อธิบายทั้งหมด จะเห็นว่ามีรายละเอียดต่างกันเล็กน้อยในแต่ละแบบ แต่อย่างไรก็ตามอย่าลืมนะครับ ว่าข้อดีของการขลิบคือประโยชน์ในเรื่องการดูแลสุขอนามัย และไม่มีคำตอบตายตัวว่าแบบไหนดีที่สุด ทางที่ดีที่สุดคือ เข้ารับการปรึกษากับแพทย์เฉพาะทาง เพื่อวิเคราะห์ลักษณะเฉพาะตัวของคุณ และเลือกวิธีขลิบที่เหมาะสมที่สุดครับ
Q&A คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการขลิบแบบ High / Low / Tight / Loose
Q : ขลิบ High กับ Low ต่างกันอย่างไร?
A : แบบ High รอยขลิบจะอยู่ห่างจากคอหยัก ทำให้เห็นความต่างของสีผิวชัดเจน ส่วนแบบ Low รอยขลิบใกล้คอหยักมากกว่า ทำให้ดูเป็นธรรมชาติ แต่บางครั้งอาจเหลือหนังมากองอยู่บริเวณคอหยัก
Q : ขลิบ Tight กับ Loose ต่างกันอย่างไร?
A : แบบ Tight จะตัดหนังมาก ทำให้ตึงและเห็นหัวอวัยวะเพศชัดเจน ส่วนแบบ Loose จะเหลือผิวหนังมากกว่า ทำให้ยืดหยุ่นและดูไม่ตึงจนเกินไป
Q : ขลิบมีผลต่อสุขอนามัยอย่างไร?
A : การขลิบช่วยให้ทำความสะอาดอวัยวะเพศได้ง่ายขึ้น ลดความเสี่ยงการติดเชื้อ และช่วยป้องกันการอักเสบบริเวณหนังหุ้มปลาย
Q : ขลิบแบบไหนที่เหมาะกับแต่ละคน?
A : ไม่มีคำตอบตายตัว ควรเลือกโดยการปรึกษาแพทย์ เพื่อพิจารณาลักษณะผิวหนัง ความต้องการด้านความสวยงาม และสุขอนามัยที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
Q : ขลิบแล้วจำเป็นต้องดูแลอย่างไร?
A : หลังขลิบควรรักษาความสะอาด หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ ใช้ยาตามแพทย์สั่ง และหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์จนกว่าบาดแผลจะหายดี



รับคำปรึกษาเบื้องต้น
สอบถามข้อมูลการรักษาและบริการเพิ่มเติม นัดหมายล่วงหน้า การเดินทางมาคลินิก
LINE:@ETERNITYCLINIC4
Facebook:@Eternityclinicthai
นายแพทย์สืบพงษ์ เอ่งฉ้วน
ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ใบอนุญาตที่ 29458 ให้ไว้ ณ วันที่ 1 เมษายน 2546
เป็นผู้มีความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม สาขาศัลยศาสตร์ เลขที่ 18321/2551
ให้ไว้ ณ วันที่ 10 กรกฎาคม 2551 (General surgeon)
เป็นผู้มีความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม สาขาศัลยศาสตร์ยูโรวิทยา เลขที่
22611/2554 ให้ไว้ ณ วันที่ 1 กรกฎาคม 2554 (Urologist)
ประกาศนียบัตรเวชศาสัตร์ทางเพศ ได้รับการรับรองโดย สมาคมเพศศาสตร์คลินิกและเวชศาสตร์
ทางเพศแห่งประเทศไทย (TACSM)
บทความล่าสุด
การใช้การฝังอุปกรณ์ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ (Penile implants)
ภาวะเสื่อมสมรรถ
เทคนิคการควบคุมการหลั่งเร็ว: การฝึกฝนและการใช้เทคนิคพิเศษ
หนึ่งในปัญหาทาง
การใช้ยาเพื่อเพิ่มความยาวอวัยวะเพศ: ประสิทธิภาพและความปลอดภัย
หยุดที่จะมองข้า
ผลข้างเคียงจากการเพิ่มขนาดอวัยวะเพศ ด้วยการใช้ยาและการผ่าตัด
การมีขนาดอวัยวะ
ขลิบไร้เลือด ต่างจากขลิบปกติอย่างไร
น้องชายมีกลิ่นเ
ขลิบมีกี่แบบ ขลิบแบบไหนดีที่หมอเบียร์แนะนำ
หลายคนยังไม่ทรา
ขลิบดีไหม ข้อดีของการขลิบที่คุณอาจยังไม่รู้
หลายคนอาจสงสัยว
ขลิบคืออะไร ทำไมถึงต้องขลิบหนังหุ้มปลาย
ขลิบคืออะไร ทำไ