สำหรับคำถามที่ว่า ขลิบแล้วดีจริงไหม ? ขลิบแล้วดีกว่าไม่ขลิบจริงหรือเปล่า ? ก็ยังคงเป็นคำถามยอดฮิตในหมู่ผู้ชายหลายๆคนจากเพจดัง อย่างเช่น Pantip สำหรับคุณผู้ชายที่ยังไม่เคยผ่านการขลิบมาก่อน แล้วถ้า ไม่ขลิบได้ไหม?
ส่วนใหญ่ก็มักจะไปสอบถามประสบการณ์ หรือถามหารีวิวจากคนที่เคยขลิบมาแล้วว่าเป็นอย่างไร ขลิบแล้วดีจริงไหม ดีต่อสุขภาพจริงหรือไม่ ขลิบกี่วันหาย ขลิบที่ไหนดี ขลิบราคา…
วันนี้หมอก็จะมาให้คำตอบเรื่องการขลิบ สำหรับคุณผู้ชายหลายๆคนที่กำลังตัดสินใจ และยังกังวลใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า การขลิบนั้นมีประโยชน์มากกว่าอย่างไร และไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คุณคิด เพราะปัจจุบันนี้เรามีเทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่เข้ามาช่วยในเรื่องของเครื่องมือที่ทันสมัยมากขึ้น ทำให้การขลิบนั้นมีวิธีที่ง่ายและรวดเร็วขึ้น รวมถึงแผลจากการผ่าตัดเจ็บน้อยลงมากๆ
การทำความสะอาดอวัยวะเพศชาย เป็นสิ่งที่ผู้ชายทุกคนควรทำ ทำเป็นกิจวัตรประจำวันได้ยิ่งดี โดยทั่วไปผู้ชายจะต้องใช้ทุกวันเพื่อขับถ่ายปัสสาวะ รวมทั้งใช้สำหรับสืบพันธุ์ หากละเลยการทำความสะอาดอวัยวะเพศ อาจทำให้เกิดอาการคัน หรือมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ได้ สำหรับผู้ที่ไม่ได้ขริบปลายอวัยวะเพศชาย ควรทำความสะอาดอวัยวะเพศบริเวณใต้หนังหุ้มปลายด้วยน้ำสะอาดและสบู่อ่อนเป็นประจำ
การขลิบเป็นการผ่าตัดเพื่อเอาหนังหุ้มปลายของอวัยวะเพศชายส่วนเกินออกไป เพื่อให้หนังหุ้มปลายอวัยวะเพศเปิดทำให้ง่ายต่อการทำความสะอาด สามารถล้างสิ่งสกปรกจากสารคัดหลั่ง เช่น คราบเหงื่อ คราบปัสสาวะที่หมักหมมอยู่ตามบริเวณใต้หนังหุ้มปลายอวัยวะ ซึ่งเป็นศูนย์รวมของเชื้อโรค ช่วยลดโอกาสเป็นมะเร็งและโรคต่างๆที่อวัยวะเพศได้ รวมถึงป้องกันปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต ซึ่งก็สามารทำได้ทุกช่วงวัย ตั้งแต่ช่วงวัยเด็กแรกเกิดหรือจนถึงวัยผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ
ขลิบแล้วดีจริงไหม ทำไมจึงต้องขลิบ ?
- ช่วยให้ดูแลสุขอนามัยได้ง่ายขึ้น การขลิบปลายอวัยวะเพศชาย ทำให้ง่ายต่อการทำความสะอาด
- ลดความเสี่ยงโรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ โดยปกติ ผู้ชายมีความเสี่ยงน้อยในการเกิดการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ แต่จะพบมากในผู้ชายที่ไม่ได้ขลิบปลายอวัยวะเศชาย และการติดเชื้อจากการขลิบปลายอวัยวะเพศชายที่ไม่รุนแรง ในเบื้องต้นอาจนำไปสู่การเกิดปัญหาเกี่ยวกับไตในภายหลังได้
- ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อจากเพศสัมพันธ์ ผู้ชายที่ขลิบปลายอวัยวะเพศชาย มักมีความเสี่ยงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รวมไปถึงเชื้อเอชไอวี (HIV) น้อยกว่าผู้ชายที่ไม่ขลิบปลายอวัยวะเพศชายอย่างไรก็ตาม ต้องป้องกันอย่างถูกวิธี เช่น ถุงยางอนามัย เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการป้องกันความเสี่ยงในการเกิดโรคติดต่อ
- ป้องกันปัญหาที่อาจเกิดของอวัยวะเพศชาย ในบางรายที่หนังหุ้มปลายอวัยวะเพศตีบ เปิดไม่ได้ อาจนำไปสู่การติดเชื้อที่หนังหุ้มปลายหรือที่ปลายอวัยวะเพศ
- ลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งองคชาต แม้ว่ามะเร็งอวัยวะเพศชายจะมีน้อยมาก แต่จะเกิดขึ้นได้น้อยลงไปอีกในผู้ชายที่มีการขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชาย นอกจากนั้น ผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายที่มีการขลิบปลายอวัยวะเพศชาย มีความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งปากมดลูกน้อยกว่าอีกด้วย
ขลิบ แบบไหนดีกว่ากัน ?
การขลิบ นอกจากวิธีการใช้ใบมีด/ไฟฟ้า และเลเซอร์แล้ว อีกหนึ่งวิธีที่กำลังเป็นที่นิยม นั่นก็คือ ขลิบไร้เลือด หรือ Staple Circumcision คือ การใช้เครื่องมือตัดอัตโนมัติที่สามารถห้ามเลือด และขลิบหนังหุ้มปลายออกได้ในเวลาเดียวกัน โดยไม่ต้องเย็บแผล ทำให้แผลสวยงาม เลือดไม่ไหลระหว่างการขลิบ และเจ็บน้อยกว่าขลิบแบบธรรมดา นั่นคือข้อแตกต่างระหว่างขลิบไร้เลือดกับแบบขลิบปกติ
ข้อดีของการขลิบไร้เลือด
การขลิบไร้เลือดมีจุดเด่นที่น่าสนใจและมีข้อได้เปรียบที่ดีกว่าการขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชายแบบดั้งเดิมหลายอย่าง เช่น
- ลดโอกาสเกิดแผลอักเสบหรือติดเชื้อ เนื่องจากเป็นการใช้อุปกรณ์ตัดหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศและเย็บปิดแผลในทันที ไม่มีการผ่าตัดเปิดแผลจนเกิดเลือดออกแล้วค่อยเย็บปิดแผล ด้วยไหมผ่าตัดเหมือนเทคนิคแบบดั้งเดิม ซึ่งเสี่ยงเกิดอาการข้างเคียงได้มากกว่า
- แนวแผลสวยงามกว่า โดยแทบจะไม่มีร่องรอยของการกรีดเย็บเหมือนเทคนิคเก่า และยังช่วยให้ทำความสะอาดแผลได้ง่ายกว่าเดิมด้วย
- ลดอาการเจ็บแผลได้ดีกว่า เนื่องจากไม่ใช่การผ่าตัดกรีดเปิดแผลที่ลึกเหมือนเทคนิคแบบดั้งเดิม จึงทำให้ผิวไม่ระบมเจ็บจากการผ่าตัดมากนัก
- แผลหายเร็ว ไม่ต้องพักฟื้นนาน โดยแผลจากการขริบไร้เลือดมักจะหายดีและแห้งภายใน 1 สัปดาห์
- ใช้ระยะเวลาผ่าตัดไม่นาน เพียงประมาณ 15-20 นาทีก็เสร็จเรียบร้อย
- มีอุปกรณ์ให้เลือกได้หลายขนาด ทำให้สามารถรองรับผู้ใช้บริการได้ตั้งแต่เด็ก 4 ขวบขึ้นไป จนถึงผู้ใหญ่
- ยังคงประสิทธิภาพด้านการป้องกันโรคติดต่อ และสุขอนามัยของอวัยวะเพศได้ดี แทบไม่ต่างจากวิธีการผ่าตัดแบบดั้งเดิม
ที่สำคัญทางคลินิก Eternityclinic ของเรายังมี ขลิบไร้เลือด รุ่นไทเทเนียม ซึ่งถือเป็นเทคนิคนี้เป็นที่ยอมรับว่า ดีที่สุด ณ ปัจจุบัน
ขลิบไร้เลือดรุ่นไทเทเนียม มันดีกว่ายังไง ?
ต้องอธิบายก่อนว่าตัวขลิบเทคนิคเดิมตัวเย็บเขาจะใช้ตัวที่เป็นสแตนเลส 318 หรือตัวเย็บที่เป็น เมดดิคอลเกรด ทางการแพทย์ว่าอย่างนั้นครับ และเนื่องจากการที่เป็นสแตนเลส ตัวเย็บจึงต้องกว้างหน่อย ทำให้มีโอกาสไปโดนเส้นเลือดและเลือดออกมาได้
แน่นอนอาจจะไม่ได้ไร้เลือดร้อยเปอร์เซ็นต์นะครับ แต่ด้วยประสบการณ์การใช้ตัวนี้มาเยอะ ทำให้หมอมีความชำนาญ มองเห็นจุดด้อยในหลายหลายด้าน สำหรับรุ่นที่ออกแบบมาเป็นตัวเย็บไทเทเนียม ข้อดีก็คือตัวเย็บเขาเล็กกว่า โดยที่ตัวไทเทเนียมเรารู้อยู่แล้วว่าโลหะของตัวเขาเอง มีความแข็งแรงสูง ทําให้ตัวเย็บเขาเล็กลงนะครับ
แล้วก็มีการเสริมตัวซิลิโคนเข้าไปอีก ซึ่งการเสริม ซิลิโคน ก็จะมีข้อดีคือ หนึ่งเวลาตัวเย็บเขาเย็บผ่านตัวเนื้อเยื่อแล้วสมมุติ โดนเส้นเลือด การที่เรามีแผ่นซิลิโคนรอง มันทําให้ช่วยเรื่องของการกดห้ามเลือดได้ด้วย ฉะนั้นแผลที่เล็กจากรอยเข็มที่เย็บ พอรอยเข็มตัวเย็บที่เล็ก ร่วมกับตัวซิลิโคนที่เป็นตัวเสริมแล้ว มันทําให้การห้ามเลือดสนิทยิ่งขึ้น จนแทบจะเรียกได้ว่า เกือบจะ ร้อยเปอร์เซ็นต์เลยครับ ทำให้เทคนิคนี้โอกาสเสียเลือดหลังผ่าตัดต่ำมาก หรือต้องเย็บเสริมแทบจะเรียกว่าน้อยมากครับ
ขริบไร้เลือด กี่วันหาย ?
ถ้าเป็นเมื่อก่อนต้องรอให้แผลแห้งสนิทก่อน ประมาณ 5-7 วัน แต่ปัจจุบันมันมีนวัตกรรมที่ทําให้แผลไม่โดนน้ำ พูดได้ว่า หลังผ่าตัดสองวันสามวัน อาบน้ำได้เลย โดนน้ำได้ด้วย ซึ่งขลิบไร้เลือดรุ่นไททาเนียม บวกกับเทคนิคพิเศษของหมอเบียร์ ทําให้แทบจะเรียกได้ว่า อาบน้ำได้เลยหลังจากแผลแห้งครับ
สรุป
จะเห็นได้ว่า การขลิบไร้เลือด มีข้อดีที่ชัดเจนแตกต่างกันอย่างมากเลยคือ ใช้เวลาที่ค่อนข้างสั้นมาก ไม่เกิน 5-10 นาทีก็เสร็จแล้ว และอย่างที่สองก็คือแผลที่ได้จะค่อนข้างเรียบเนียนสวย เพราะว่ามีการใช้เครื่องมือพิเศษซึ่งสามารถห้ามเลือดได้ดี และแผลเย็บอย่างเป็นระเบียบ และที่สำคัญคือการดูแลทำความสะอาดรักษาแผลหลังผ่าตัดทำได้ง่าย และหลังจากนั้นก็ใช้ชีวิตได้ตามปกติค่อนข้างไวกว่า
Q&A คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการขลิบ
Q : ขลิบไร้เลือด (Staple/DCSC) คืออะไร ต่างจากแบบเดิมยังไง?
A : เป็นการใช้เครื่องมือตัด และเย็บอัตโนมัติในครั้งเดียว ช่วยกดห้ามเลือด แนวแผลเรียบ ใช้เวลาราว 10 – 20 นาที เจ็บ บวม มักน้อยกว่าแบบกรีดเย็บดั้งเดิม และทำความสะอาดแผลได้ง่าย
Q : รุ่นไทเทเนียม ดีกว่าอย่างไร?
A : ตัวเย็บไทเทเนียมแข็งแรงแต่ขนาดเล็ก เมื่อรวมซิลิโคนรองเย็บจะกดห้ามเลือดได้ละเอียด ลดโอกาสเลือดซึม แผลจึงดูเรียบและพักฟื้นสั้น
Q : ขลิบกี่วันหาย? อาบน้ำได้เมื่อไหร่?
A : โดยมากแผลจะแห้งภายใน 1 สัปดาห์ (ขึ้นกับแต่ละคน และเทคนิค) 2 – 3 วันแรกเลี่ยงน้ำ ถ้าโดนน้ำให้ซับแห้งทันที ปฏิบัติตามคำแนะนำแพทย์อย่างเคร่งครัด
Q : เจ็บไหม ต้องหยุดงานกี่วัน?
A : ระหว่างทำมีการระงับปวดเฉพาะที่ หลังทำอาจปวดตึงเล็กน้อย 1 – 3 วัน งานเบาๆ มักกลับได้เร็ว (แล้วแต่ลักษณะงาน)
Q : ขลิบช่วยลดหลั่งเร็ว ได้จริงหรือ?
A : สำหรับบางคนอาจรู้สึกคุมจังหวะได้ดีขึ้น แต่ ไม่ใช่มาตรฐานการรักษา PE หากกังวลเรื่องหลั่งเร็ว ควรประเมินเฉพาะรายกับแพทย์เพื่อดูแนวทางที่เหมาะสมกว่า (เช่น พฤติกรรมบำบัด และยาช่วย)


รับคำปรึกษาเบื้องต้น
สอบถามข้อมูลการรักษาและบริการเพิ่มเติม นัดหมายล่วงหน้า การเดินทางมาคลินิก
LINE:@ETERNITYCLINIC4
Facebook:@Eternityclinicthai
นายแพทย์สืบพงษ์ เอ่งฉ้วน
ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ใบอนุญาตที่ 29458 ให้ไว้ ณ วันที่ 1 เมษายน 2546
เป็นผู้มีความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม สาขาศัลยศาสตร์ เลขที่ 18321/2551
ให้ไว้ ณ วันที่ 10 กรกฎาคม 2551 (General surgeon)
เป็นผู้มีความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม สาขาศัลยศาสตร์ยูโรวิทยา เลขที่
22611/2554 ให้ไว้ ณ วันที่ 1 กรกฎาคม 2554 (Urologist)
ประกาศนียบัตรเวชศาสัตร์ทางเพศ ได้รับการรับรองโดย สมาคมเพศศาสตร์คลินิกและเวชศาสตร์
ทางเพศแห่งประเทศไทย (TACSM)
บทความล่าสุด
การใช้การฝังอุปกรณ์ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ (Penile implants)
ภาวะเสื่อมสมรรถ
เทคนิคการควบคุมการหลั่งเร็ว: การฝึกฝนและการใช้เทคนิคพิเศษ
หนึ่งในปัญหาทาง
การใช้ยาเพื่อเพิ่มความยาวอวัยวะเพศ: ประสิทธิภาพและความปลอดภัย
หยุดที่จะมองข้า
ผลข้างเคียงจากการเพิ่มขนาดอวัยวะเพศ ด้วยการใช้ยาและการผ่าตัด
การมีขนาดอวัยวะ
ขลิบไร้เลือด ต่างจากขลิบปกติอย่างไร
น้องชายมีกลิ่นเ
ขลิบมีกี่แบบ ขลิบแบบไหนดีที่หมอเบียร์แนะนำ
หลายคนยังไม่ทรา
ขลิบดีไหม ข้อดีของการขลิบที่คุณอาจยังไม่รู้
หลายคนอาจสงสัยว
ขลิบคืออะไร ทำไมถึงต้องขลิบหนังหุ้มปลาย
ขลิบคืออะไร ทำไ