หลั่งเร็วแก้อย่างไร ปัญหาที่ผู้ชายไม่อยากเจอ

ในการใช้ชีวิตคู่ อาจมีทั้งการปรับตัวและปัญหาที่ต้องคอยปรับแก้ไขอยู่เสมอ ซึ่งรวมไปถึงในด้านทางเพศ โดยปัญหาทางเพศส่วนใหญ่ที่มักเกิดกับเพศชายนั้น คืออาการ “หลั่งเร็ว” (Premature Ejaculation) หรือที่บางคนเรียกว่าอาการล่มปากอ่าวนั่นเอง

การที่คุณผู้ชายมีอาการหลั่งเร็ว หรือหลั่งไวผิดปกตินั้น นอกจากจะทำให้เกิดความหนักใจระหว่างตนเองและคู่นอนแล้ว ยังอาจสามารถบ่งบอกถึงสภาวะทางร่างกาย หรือปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ซึ่งจะส่งผลเสียด้านอื่น ๆ ตามมาในภายหลัง อาการหลั่งเร็ว เป็นภาวะที่คุณผู้ชายมีการหลั่งภายในระยะเวลาน้อยกว่าอัตราเฉลี่ย

ซึ่งเกิดได้จากหลายปัจจัยทั้งภายในและภายนอก ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสารสื่อประสาท ฮอร์โมน หรือพฤติกรรมการบริโภค อารมณ์และความเครียด ซึ่งการหลั่งเร็วนี้อาจส่งผลกระทบในแง่ลบให้กับความสัมพันธ์ทั้งชายและหญิงได้ ดังนั้นในบทความนี้จะชวนคุณผู้ชายลองสังเกตตัวเองว่ามีอาการหลั่งไวหรือไม่ รวมถึงสาเหตุที่ทำให้ผู้ชายเกิดอาการหลั่งเร็ว พร้อมแนวทางแก้ปัญหาเบื้องต้นให้ทราบโดยทั่วกัน

การหลั่งเร็วคืออะไร

การหลั่งเร็ว (Premature Ejaculation, PE) หรือนกกระจอกไม่ทันกินน้ำ หรือล่มปากอ่าว หมายถึง ภาวะที่ฝ่ายชายไม่สามารถควบคุมการหลั่งให้นานพอที่ฝ่ายหญิงจะถึงจุดสุดยอด การหลั่งเร็วเป็นอาการป่วย ซึ่งมีผลกระทบต่อผู้ที่เป็น มีลักษณะ 3 อย่าง ดังนี้

1. หลั่งก่อนการสอดใส่หรือช่วงเวลาสั้น ๆ หลังการสอดใส่
2. ไม่สามารถควบคุมการหลั่งได้
3. รู้สึกไม่มีความสุขหรือมีปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างคู่รัก เนื่องจากอาการหลั่งเร็ว

แบบไหนถึงเรียกว่าหลั่งเร็ว

โดยอัตราเฉลี่ยของระยะเวลาในการถึงเส้นชัยของผู้ชายไทย จะอยู่ที่ราว 5-7 นาที โดยเริ่มนับเมื่อมีการสอดใส่ หากว่าคุณอยู่ในประเภทที่เสร็จกิจภายใน 1-2 นาที ก็นับได้ว่าหลั่งเร็ว และเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณไม่สามารถควบคุมการหลั่งให้นานพอจนกว่าอีกฝ่ายจะเสร็จกิจได้ ก็นับว่ามีอาการ ‘ล่มปากอ่าว’ ได้เช่นกัน

สาเหตุหลักของอาการหลั่งเร็ว

ปัญหาอาการ “หลั่งเร็ว” ของผู้ชาย อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของฮอร์โมน สารสื่อประสาทภายในร่างกาย หรือปัจจัยจากภายนอก ซึ่งเมื่อมีการค้นหาสาเหตุต่าง ๆ แล้ว อาการหลั่งไวมีสาเหตุเกิดจากปัจจัยร่วมดังต่อไปนี้

• ความวิตกกังวลระหว่างการมีเพศสัมพันธ์
• โรคที่เกี่ยวกับฮอร์โมน เช่น ไทรอยด์ เบาหวาน
• การใช้สารเสพติด หรือการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป
• โรคเกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะ เช่น ต่อมลูกหมากอักเสบ
• สารสื่อประสาทกลุ่มเซโรโทนินผิดปกติ
• พฤติกรรมการนอนที่ไม่ดี เช่น นอนน้อย หรือการอดนอน
• มีภาวะความดันโลหิตสูง หรือโรคเกี่ยวกับหลอดเลือด
• เริ่มมีภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
• การมีน้ำหนักตัวมากเกิน หรืออ้วนลงพุง
• มีภาวะกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานหย่อน

คลิกดูรีวิวแก้หลังเร็ว

แนวทางการรักษาอาการ “หลั่งเร็ว”

1. ใช้ห่วงรัดอวัยวะเพศ Cock Ring วิธีแก้อาการหลั่งเร็ววิธีแรก คือการใช้ห่วงรัดอวัยวะเพศ หรือ Cock Ring รัดไปที่บริเวณโคนอวัยวะเพศ เพื่อช่วยในการกระตุ้นการไหลเวียนเลือด และช่วยชะลอการหลั่งเร็วได้
2. ลดอาการหลั่งเร็วด้วยถุงยางอนามัย เป็นวิธีแก้ปัญหาหลั่งเร็วได้เช่นกัน โดยสามารถเลือกถุงยางอนามัยที่มีคุณสมบัติช่วยชะลอการหลั่งเร็ว หรือเลือกถุงยางอนามัยที่มีความหนาพิเศษเพื่อลดความรู้สึกคล้ายสัมผัสโดยตรงได้ นอกจากนี้แล้ว ถุงยางอนามัยยังสามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือลดการตั้งครรภ์โดยที่ไม่พร้อมได้ด้วย
3. เทคนิค Squeeze Method เทคนิคนี้จะเป็นการลดความตื่นเต้น และไล่เลือดคั่งบริเวณอวัยวะเพศเพื่อทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และลดระยะการหลั่งเร็ว โดยจะเป็นการบีบบริเวณหัวหรือโคนของอวัยวะเพศเมื่อรู้สึกว่าใกล้จะหลั่งเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ประมาณ 3-4 วินาที ให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นก่อนที่จะเริ่มกิจกรรมใหม่
4. เทคนิค Masters And Johnson Method เทคนิคนี้เป็นวิธีการแก้ปัญหาหลั่งเร็วโดยการฝึกด้วยตนเองด้วยการช่วยตัวเอง (Masterbation) เพื่อควบคุมการหลั่ง (Start-Stop technique) วิธีนี้จะเป็นการหยุดการช่วยตัวเองทันทีที่ใกล้จะหลั่ง และเมื่อร่างกายรู้สึกผ่อนคลายขึ้นแล้ว ก็ให้เริ่มทำใหม่ ทั้งนี้ก็ควรมีการสังเกตลิมิตของตัวเองร่วมด้วย
5. มีเพศสัมพันธ์ด้วยท่า Woman On Top วิธีแก้หลั่งเร็วด้วยการให้ผู้หญิง On Top ขณะมีเพศสัมพันธ์ก็สามารถช่วยร่นระยะเวลาการหลั่งได้ เพราะผู้ชายจะรู้สึกผ่อนคลายมากกว่า แต่ก็มีข้อควรระวังเพราะการที่จะให้ Woman On Top นั้น ผู้หญิงจะต้องมีความชำนาญในระดับหนึ่ง เพราะไม่อย่างนั้นอาจเกิดอันตรายต่ออวัยวะเพศของผู้ชายได้
6. ผ่อนคลายร่างกายด้วยการเล้าโลม (Foreplay) เป็นวิธีแก้อาการหลั่งเร็วที่ดีอย่างหนึ่งเช่นกัน นอกจากจะช่วยผ่อนคลายร่างกาย ลดความกังวลหรือตื่นเต้นแล้ว ยังช่วยให้คู่นอนมีความรู้สึกที่ดีอีกด้วย
7. รักษาด้วยคลื่น Shock Wave สำหรับคุณผู้ชายที่มีปัญหา หรือเสี่ยงมีภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศที่เป็นปัจจัยหนึ่งของการเกิดอาการหลั่งเร็วนั้น สามารถใช้คลื่น Shock Wave เพศชาย เพื่อเป็นการฟื้นฟูปัญหาสมรรถภาพทางเพศเสื่อมได้เช่นกัน

สรุป อาการหลั่งเร็วปัญหาที่ผู้ชายไม่อยากเจอ

หากสังเกตว่าตัวเองมีอาการหลั่งเร็ว อาจใช้วิธีแก้เบื้องต้นที่ได้รวบรวมมาต่างๆ เพื่อช่วยชะลอการหลั่ง แต่หากผ่านไปสักระยะแล้ว ยังคงมีอาการหลั่งเร็วอยู่ อาจจะต้องเข้ารับการรักษาอาการหลั่งเร็วกับแพทย์เฉพาะทางเพศโดยตรงกับหมอเบียร์ ประสบการณ์สูง มีรางวัลรับรองมากมาย น่าเชื่อถือ บริการให้คำปรึกษาอย่างเป็นกันเอง

Q&A คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับหลั่งเร็ว แก้อย่างไร ปัญหาที่ผู้ชายไม่อยากเจอ

Q : สาเหตุหลั่งเร็วมีอะไรบ้าง?
A : ปัจจัยร่วมทั้งจิตใจ (เครียด วิตกกังวล), ชีวภาพ (สารสื่อประสาทเซโรโทนิน/ฮอร์โมน), โรคประจำตัว (ไทรอยด์ เบาหวาน ความดัน), ทางเดินปัสสาวะ (ต่อมลูกหมากอักเสบ), พฤติกรรม (นอนน้อย ดื่มแอลกอฮอล์ สารเสพติด), ภาวะอ้วนลงพุง และกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานหย่อน

Q : รู้ได้อย่างไรว่าตัวเองเข้าข่ายหลั่งเร็ว?
A : ลองจับเวลา “ช่วงสอดใส่จนถึงการหลั่ง” หลายครั้งเฉลี่ยกัน หากมักไม่เกิน 1–2 นาที และควบคุมไม่ได้ ควรปรึกษาแพทย์

Q : มีวิธีแก้เบื้องต้นแบบไม่ใช้ยาหรือไม่?
A : มี เช่น Start–Stop, Squeeze, ฝึก Kegel, ใช้ ถุงยางชะลอ หรือ Cock ring, ปรับท่า Woman on top, เน้น Foreplay และการหายใจช้าเพื่อลดความตื่นเต้น

Q : ยา Priligy (Dapoxetine) ช่วยได้ไหม?
A : เป็นยากลุ่ม SSRI แบบออกฤทธิ์สั้น ใช้ “ตามคำสั่งแพทย์” ช่วยยืดเวลาการหลั่งได้ เหมาะใช้ร่วมกับการปรับพฤติกรรม

Q : Lifestyle อะไรที่ควรปรับ?
A : ลดแอลกอฮอล์/บุหรี่ คุมเบาหวาน-ความดัน ออกกำลังกาย นอนพอ ลดความเครียด คุม BMI

คลิกที่นี่ ปรึกษาปัญหาหลั่งเร็ว กับ หมอเบียร์ นพ.สืบพงษ์ เอ่งฉ้วน แพทย์เฉพาะทางศัลยศาสตร์ยูโรวิทยา (Urology) เลข ว.29458

นพ.สืบพงษ์ เอ่งฉ้วน

ใบอนุญาตเลขที่ 29458

See Full Bio