ภาวะ”พร่องฮอร์โมนเพศชาย” เป็นภาวะที่ร่างกายขาดฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน หรือมีระดับฮอรโมนเทสโทสเตอโรนลดลงอย่างผิดปกติ มักพบได้ในเพศชายที่มีอายุเท่าไหร่บทความนี้มีคำตอบครับ ลักษณะอาการของภาวะพร่องฮอร์โมน
เช่น สูญเสียพลังงาน อ่อนเพลีย ไม่กระฉับกระเฉง ความต้องการทางเพศลดลง ขาดแรงบันดาลใจในการทำงาน อารมณ์แปรปรวนง่าย หงุดหงิดง่าย ขาดความมั่นใจ หรือซึมเศร้า ง่วงนอนหลังมื้ออาหาร หรือขาดสมาธิในการทำงาน
หากมีอาการเหล่านี้ แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพร่างกาย หรือเข้ารับการตรวจสุขภาพด้วยโปรแกรมตรวจระดับฮอร์โมนเพศชายโดยเฉพาะ เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุ และเข้ารับการรักษาด้วยวิธีการที่เหมาะสม อาจส่งผลให้เกิดความผิดปกติทั้งทางร่างกายและจิตใจ คล้ายกับในผู้หญิงในวัยหมดประจำเดือน
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิต และให้ฮอร์โมนเพศชายทดแทน เป็นอาการที่ไม่ได้เกิดขึ้นในทันทีทันใด แต่จะค่อยๆเพิ่มระดับขึ้นเรื่อยๆ จนคุณผู้ชายหลายคนไม่ได้สังเกตเห็น พออาการเริ่มมากเข้าก็คิดว่าเป็นเพราะวัยที่เริ่มร่วงโรยไป รู้สึกชินกับอาการดังกล่าว ทำให้ไม่ได้เดือดร้อนถึงขนาดต้องหาที่ปรึกษา
พร่องฮอร์โมนเพศชาย คืออะไร
“พร่องฮอร์โมนเพศชาย” (Testosterone Deficiency หรือ Hypogonadism) หมายถึง ภาวะที่ร่างกายผลิตฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone) ได้น้อยกว่าปกติ ซึ่งเป็นฮอร์โมนสำคัญของผู้ชายที่ช่วยควบคุมทั้งระบบสืบพันธุ์ พลังงาน กล้ามเนื้อ อารมณ์ และสมรรถภาพทางเพศ
พูดง่าย ๆ คือ “ฮอร์โมนเพศชายตก” ทำให้ร่างกายและจิตใจเปลี่ยนไป เช่น
-
เหนื่อยง่าย ไม่มีแรง
-
กล้ามเนื้อลดลง ไขมันเพิ่มขึ้น
-
สมรรถภาพทางเพศลดลง
-
ไม่มีอารมณ์ทางเพศ
-
หงุดหงิด เครียด หรือซึมเศร้าได้ง่าย
โดยทั่วไปภาวะนี้มักเกิดขึ้นตามอายุที่มากขึ้น (ประมาณหลังอายุ 40 ปีขึ้นไป) แต่บางคนอาจเกิดได้เร็วจากสาเหตุอื่น เช่น ความเครียดเรื้อรัง การนอนน้อย โรคอ้วน การดื่มแอลกอฮอล์ หรือการใช้ยาบางชนิด
รู้ได้อย่างไรว่ามีภาวะ “พร่องฮอร์โมนเพศชาย”
โดยปกติฮอร์โมนเพศชายจะเริ่มลดลงเมื่ออายุประมาณ 50 ปี แต่สำหรับผู้ชายที่ไม่ค่อยดูแลตัวเอง ใช้ชีวิตอย่างหนักหน่วง ขาดการพักผ่อนต่อเนื่อง อาจมีปัญหาได้ตั้งแต่อายุ 40 – 45 ปี โดยสังเกตได้จากสัญญาณเตือนว่าคุณอาจเสี่ยงเป็นภาวะ พร่องฮอร์โมนเพศชาย เบื้องต้น ดังนี้
- ด้านระบบประสาทและจิตใจ ได้แก่ หลงลืม สมาธิความจำสั้น หงุดหงุดง่าย กระสับกระส่าย วิตกกังวล
- ด้านร่างกาย มีอาการร้อนวูบวาบ ปวดตามข้อ ปวดเมื่อยตามร่างกายทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มีกิจกรรมหนัก ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อลดลง เคยแบกของเป็นกิโลๆ ตอนนี้ยกอะไรแทบไม่มีเรี่ยวแรง เหนื่อยหน่ายไม่อยากจะทำอะไร อ่อนเพลีย หนังตาจะปิดโดยเฉพาะหลังทานอาหาร
- ด้านเพศ โดยหนวดเคราจะขึ้นช้าลง อารมณ์ทางเพศเริ่มลดลงไปจนขาดความสนใจในกิจกรรมทางเพศ การแข็งตัวของอวัยวะลดลง
- ผู้ที่สงสัยว่ามีอาการดังกล่าวจำเป็นต้องได้รับการตรวจจากแพทย์ เพราะการวินิจฉัยจากอาการอย่างเดียวไม่เพียงพอต้องมีการประเมินจากแบบสอบถามและตรวจเพิ่มเติมทางห้องปฏิบัติการ
การรักษาภาวะพร่องฮอร์โมน
ส่วนใหญ่แพทย์จะพิจารณาจากสาเหตุที่ให้เกิดภาวะพร่องฮอร์โมน แล้วมุ่งแก้ไขในต้นเหตุของปัญหาดังกล่าว เช่น การปรับพฤติกรรม การรักษาโรคที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น โดยมีเป้าหมายให้ผู้ที่มีภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชายมีระดับฮอร์โมนเป็นปกติและกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นทั้งสุขภาพกาย สุขภาพจิตใจ ใช้ชีวิตโดยปราศจากโรคเรื้อรัง และจะต้องมีการกลับคืนของสุขภาพทางเพศ สามารถมีกิจกรรมทางเพศได้
กลุ่มที่มีความเสี่ยง
เพศชายที่มีความเครียด ใช้ชีวิตหนักพักผ่อนน้อย อ้วนลงพุง ไม่ค่อยมีเพศสัมพันธ์ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันเลือดสูง ไขมันในเลือดสูง อาการไม่กระฉับกระเฉง เฉื่อยชา ขาดความมั่นใจ หงุดหงิดง่าย นอนไม่หลับ ซึมเศร้า อารมณ์แปรปรวน อ้วนลงพุง เล้นรอบเอวมากกว่า 36 นิ้ว รู้สึกร้อนวูบวาบ ไม่มีความรู้สึกทางเพศ อวัยวะเพศไม่แข็งตัว
วิธีการตรวจเริ่มจากการทำแบบสอบถาม เพื่อคัดกรองภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชายในเบื้องต้นแพทย์จะประเมินอาการ โดยการตรวจวัดระดับฮอร์โมนเพศชายด้วยการเจาะเลือด จากนั้นจะวินิจฉัยการรักษาที่เฉพาะเจาะจงตามอาการของผู้ป่วย
จากการเก็บข้อมูลการรักษา
จากข้อมูลผู้ป่วยที่ผ่านมา พบว่าหลายคนไม่รู้ว่าตัวเองมี “ภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชาย” จึงปล่อยอาการไว้จนยากต่อการรักษา ทั้งที่ภาวะนี้สามารถจัดการได้หากตรวจพบเร็ว
อาการของพร่องฮอร์โมนเพศชายมักไม่เฉพาะเจาะจง เช่น
-
ความต้องการทางเพศลดลง
-
สมรรถภาพทางเพศบกพร่อง
-
อ่อนเพลีย กล้ามเนื้ออ่อนแรง
-
อารมณ์แปรปรวน หลงลืมง่าย นอนหลับไม่สนิท
โดยทั่วไประดับฮอร์โมนเพศชาย (เทสโทสเทอโรน) จะลดลงราว 1–2% ต่อปีหลังอายุ 40 ปี ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งทางกายและอารมณ์ เช่น เสียงห้าวลดลง กล้ามเนื้อลดลง หรืออวัยวะเพศไม่แข็งแรงเหมือนเดิม
ภาวะนี้เกิดจากเซลล์ในลูกอัณฑะตอบสนองต่อสัญญาณจากต่อมใต้สมองได้ไม่ดี ซึ่งอาจเกิดจากโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ภาวะอ้วน การดื่มแอลกอฮอล์ หรือการสูบบุหรี่
แม้ภาวะนี้อาจทำให้ขนาดอวัยวะเพศเล็กลงได้ แต่สามารถฟื้นฟูได้ด้วยการปรับพฤติกรรม เช่น งดบุหรี่ แอลกอฮอล์ ควบคุมอาหาร และออกกำลังกายสม่ำเสมอ รวมถึงการให้ ฮอร์โมนเพศชายทดแทน เพื่อช่วยฟื้นฟูพลังงาน สมรรถภาพ และคุณภาพชีวิตโดยรวม
สรุป ภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชาย
ภาวะ พร่องฮอร์โมนเพศชาย เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในผู้ชายวัย 40 ปีขึ้นไป และมักถูกมองข้ามเพราะอาการค่อย ๆ เกิดขึ้น เช่น ความอ่อนเพลีย สมรรถภาพทางเพศลดลง หรืออารมณ์แปรปรวน การตรวจสุขภาพและได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้วินิจฉัยได้ถูกต้อง และรักษาให้ระดับฮอร์โมนกลับมาสมดุลได้อย่างปลอดภัย
การดูแลตัวเองด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่ดี และงดพฤติกรรมเสี่ยงอย่างการสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์ จะช่วยให้ฮอร์โมนเพศชายอยู่ในระดับที่เหมาะสม ส่งผลให้สุขภาพกายและใจกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง
การตรวจสุขภาพ และการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นสิ่งสำคัญ ในการรักษาเพื่อให้ระดับฮอร์โมนในร่างกายกลับสู่ภาวะที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการมีชีวิตที่สมดุลและสุขภาพดี
สามารถปรึกษาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ LINE OA ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ ติดต่อสาขาใกล้บ้านท่านได้เลยครับ [คลิกที่นี่เพื่อดูสาขาทั้งหมด]
🩺 Q&A คำถามที่พบบ่อย ภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชาย
คือภาวะที่ร่างกายผลิตฮอร์โมนเพศชาย (เทสโทสเทอโรน) ได้น้อยกว่าปกติ ส่งผลให้พลังงานลดลง สมรรถภาพทางเพศลดลง อารมณ์แปรปรวน และมีไขมันสะสมมากขึ้น
มักเกิดจากอายุที่มากขึ้น ความเครียดเรื้อรัง การพักผ่อนไม่เพียงพอ โรคอ้วน หรือการใช้ยาบางชนิดที่มีผลต่อการผลิตฮอร์โมน
ผู้ที่มีภาวะนี้อาจมีอาการอ่อนเพลีย ไม่มีแรง กล้ามเนื้อลดลง ไม่มีอารมณ์ทางเพศ สมรรถภาพทางเพศลดลง และอารมณ์ไม่คงที่
โดยทั่วไปคือการให้ฮอร์โมนเพศชายทดแทน (Testosterone Replacement Therapy) ซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบยาฉีด ยาทา หรือยากิน ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ระยะเวลาในการรักษาขึ้นอยู่กับระดับฮอร์โมนของแต่ละคนและอาการ โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินและปรับขนาดยาให้เหมาะสม






รับคำปรึกษาเบื้องต้น
สอบถามข้อมูลการรักษาและบริการเพิ่มเติม นัดหมายล่วงหน้า การเดินทางมาคลินิก
LINE:@ETERNITYCLINIC4
Facebook:@Eternityclinicthai
นายแพทย์สืบพงษ์ เอ่งฉ้วน
ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ใบอนุญาตที่ 29458 ให้ไว้ ณ วันที่ 1 เมษายน 2546
เป็นผู้มีความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม สาขาศัลยศาสตร์ เลขที่ 18321/2551
ให้ไว้ ณ วันที่ 10 กรกฎาคม 2551 (General surgeon)
เป็นผู้มีความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม สาขาศัลยศาสตร์ยูโรวิทยา เลขที่
22611/2554 ให้ไว้ ณ วันที่ 1 กรกฎาคม 2554 (Urologist)
ประกาศนียบัตรเวชศาสัตร์ทางเพศ ได้รับการรับรองโดย สมาคมเพศศาสตร์คลินิกและเวชศาสตร์
ทางเพศแห่งประเทศไทย (TACSM)
บทความล่าสุด
การใช้การฝังอุปกรณ์ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ (Penile implants)
ภาวะเสื่อมสมรรถ
เทคนิคการควบคุมการหลั่งเร็ว: การฝึกฝนและการใช้เทคนิคพิเศษ
หนึ่งในปัญหาทาง
การใช้ยาเพื่อเพิ่มความยาวอวัยวะเพศ: ประสิทธิภาพและความปลอดภัย
หยุดที่จะมองข้า
ผลข้างเคียงจากการเพิ่มขนาดอวัยวะเพศ ด้วยการใช้ยาและการผ่าตัด
การมีขนาดอวัยวะ
ขลิบไร้เลือด ต่างจากขลิบปกติอย่างไร
น้องชายมีกลิ่นเ
ขลิบมีกี่แบบ ขลิบแบบไหนดีที่หมอเบียร์แนะนำ
หลายคนยังไม่ทรา
ขลิบดีไหม ข้อดีของการขลิบที่คุณอาจยังไม่รู้
หลายคนอาจสงสัยว
ขลิบคืออะไร ทำไมถึงต้องขลิบหนังหุ้มปลาย
ขลิบคืออะไร ทำไ