ท่านผู้ชายมีความพยายามที่จะเสริมหล่อด้วยการใช้สเตียรอยด์ เพื่อให้รูปลักษณ์ดึงดูดใจเพศตรงข้ามและหาคู่ได้ง่ายขึ้นนั้น กลับมีอัตราความเสี่ยงเป็นหมันของผู้ชายที่ใช้สเตียรอยด์นั้นมีมากกว่าสูงถึง 90% เลยทีเดียว ผู้ชายที่ใช้สารสเตียรอยด์พยายามทำให้ตัวเองกล้ามโตและดูตัวใหญ่กว่าปกติ เหมือนกับลักษณะของเพศชายที่อยู่ในขั้นสุดยอดของวิวัฒนาการ แต่แท้ที่จริงแล้ว พวกเขากำลังทำให้ตัวเองกลายเป็นสิ่งชำรุดทางวิวัฒนาการมากกว่า เพราะแต่ละคนไม่มีเชื้ออสุจิเหลืออยู่เลยแม้แต่ตัวเดียว
การใช้สารจำพวกแอนาบอลิกสเตียรอยด์ (Anabolic Steroids) ซึ่งเป็นที่นิยมกันในหมู่นักเพาะกาย ส่งผลเสียต่อความสามารถในการมีบุตรของผู้ชายอย่างมาก แม้ว่าสารดังกล่าวจะให้ผลเลียนแบบฮอร์โมนเพศชายหรือเทสโทสเตอโรน ซึ่งช่วยกระตุ้นการเติบโตของกล้ามเนื้อได้ แต่ในขณะเดียวกัน สารนี้จะทำให้ต่อมพิทูอิทารีในสมองเข้าใจผิดว่าอัณฑะกำลังทำงานหนัก จนหยุดการผลิตฮอร์โมนสำคัญที่ช่วยในการผลิตตัวอสุจิไปอย่างสิ้นเชิง

สเตียรอยด์ อันตรายหรือไม่
สเตียรอยด์ เป็นตัวยาที่มีสรรพคุณบรรเทาอาการเจ็บป่วยและรักษาโรคได้หลากหลาย แม้แต่ในแวดวงความงาม หรือแวดวงกีฬา ก็มีการนำสเตียรอยด์มาใช้ด้วยเช่นกัน ประโยชน์ที่หลากหลายเช่นนี้เองทำให้บางคนถึงกับเรียกเสตียรอยด์ว่า “ยารอบจักรวาล” กินปั๊บ หายปุ๊บ ฉีดปั๊บ ได้ผลปุ๊บ อย่างไรก็ดี ภายใต้คุณสมบัติที่หลากหลายและความรวดเร็วในการออกฤทธิ์ก็มี “อันตราย” ซ่อนอยู่ด้วยเช่นกัน หากใช้อย่างรุ้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือใช้ไม่เหมาะสม ดังนั้นหากจำเป็นต้องใช้สเตียรอยด์ก็ควรใช้ตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
สเตียรอยด์คืออะไร
สเตียรอยด์ (Steroid) เป็นกลุ่มยาชนิดหนึ่งซึ่งมีชื่อเต็มว่า corticosteroid บางครั้งถูกเรียกสั้นๆ ว่า “roids” หรือ “juice” สเตียรอยด์เป็นหนึ่งในฮอร์โมนที่ร่างกายสร้างขึ้นจากต่อมหมวกไตชั้นนอกเพื่อกระตุ้นการทำงานของร่างกาย เช่น รับมือกับความเครียด ส่งเสริมการเจริญเติบโตของร่างกาย และพัฒนาการด้านต่างๆ ของร่างกาย เป็นต้น ส่วนสเตียรอยด์ที่ใช้ในทางการแพทย์ คือสารที่สังเคราะห์ขึ้นเพื่อใช้ประโยชน์ในการรักษาโรค ทดแทนการขาดฮอร์โมนจากต่อมหมวกไต และความบกพร่องของต่อมใต้สมองส่วนหน้า
ประเภทของยาสเตียรอยด์
ยาสเตียรอยด์แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลักตามรูปแบบการใช้งาน
- ใช้ภายนอกเพื่อการออกฤทธิ์เฉพาะที่ ด้วยการหยอด พ่น สูดพ่น และทา
- เพื่อการออกฤทธิ์ทั่วร่างกาย ด้วยการฉีด การรับประทาน
ประโยชน์สเตียรอยด์
สเตียรอยด์ เป็นสารที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ บรรเทาอาการเจ็บปวด บวม แดง ร้อน ของเนื้อเยื่อภายในร่างกาย อาการของโรคในระบบต่างๆ รวมทั้งกดภูมิคุ้มกันและลดไข้ได้
อย่างไรก็ดี มีหลายคนที่พยายามใช้ยาสเตียรอยด์ทั้งแบบเม็ด แบบเจล แบบครีม หรือการฉีดเข้าสู่เส้นเลือด เพราะเชื่อว่า สเตียรอยด์จะพัฒนาศักยภาพทางด้านกีฬา หรือสภาพร่างกายได้ โดยเฉพาะยาอนาบอลิกสเตียรอยด์
อันตรายและผลกระทบจากการใช้สเตียรอยด์
- กดการหลั่งของฮอร์โมนจากต่อมหมวกไต ทำให้สร้างได้น้อยลง หรือไม่พอกับความต้องการของร่างกาย
- กดภูมิต้านทานของร่างกาย ทำให้ติดเชื้อแบคทีเรียและไวรัสได้ง่ายขึ้น
- ยับยั้งการเจริญเติบโตของร่างกาย
- ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง
- ทำให้กระดูกผุ
- ส่งผลต่ออารมณ์และความรู้สึก เช่น มีภาวะทางด้านอารมณ์ที่ก้าวร้าว ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ หงุดหงิด
- ความดันลูกตาสูงขึ้น เสี่ยงต่อการเป็นต้อหิน
นอกจากนี้อาจทำให้เกิดความรู้สึกไม่ไว้วางใจผู้อื่น หวาดระแวง ซึ่งผู้ใช้เตียรอยด์มักมีความเสี่ยงที่จะใช้ยาเสพติดอื่นๆ เพิ่มขึ้นด้วย เช่น แอลกอฮอล์ หรือโคเคน และแน่นอนยาเสพติดเหล่านี้ส่งผลเสียต่อตัวยาสเตียรอยด์
ผู้ใช้สเตียรอยด์แบบฉีดเข้าเส้นเลือดยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV หรือเป็นโรคเอดส์สูงมาก หากมีการใช้เข็มร่วมกันกับผู้อื่น นอกจากนี้หากเข็มที่ใช้นั้นไม่สะอาดพอก็จะทำให้มีโอกาสติดโรคไวรัสตับอักเสบ หรือเป็นโรคเยื่อบุหัวใจอักเสบอันเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียได้
การใช้สเตียรอยด์หลายชนิดในเวลาเดียวกัน และภาวะเสพติดการใช้ยา ผู้ใช้สเตียรอยด์บางท่านมีการใช้ยาแบบทบรอบคือ พวกเขาจะใช้ยาปริมาณมากกว่าสองเท่าในช่วงเวลาเดียวกัน จากนั้นจะหยุดการใช้ยาชั่วคราวและจะกลับมาใช้ใหม่ นอกจากนี้ยังมีหลายคนที่ใช้สเตียรอยด์หลายชนิดในเวลาเดียวกัน
โดยวิธีการรับประทานยาแบบพีระมิดคือ ใช้ยาจากปริมาณน้อยไปหามากจะเพิ่มปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ รับประทานถี่มากขึ้น และรับประทานสเตียรอยด์หลากหลายชนิดมากขึ้น
จากนั้นจะลดระดับการใช้ลงโดยทำเช่นนี้ตามตารางและรอบเวลา ผู้ใช้เชื่อว่า การใช้สเตียรอยด์หลายชนิดในเวลาเดียวกันจะทำให้ยาแต่ละตัวทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และการใช้ยาแบบพีระมิดจะทำให้ร่างกายคุ้นเคยกับการใช้ยาในปริมาณมากๆ ในช่วงพักจากการใช้ยาร่างกายก็จะกลับมาสู่สภาพปกติอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ยังไม่พบผลของการศึกษาวิจัยใดๆ สนับสนุนความเชื่อเหล่านี้แต่อย่างใด
ผู้ใช้หลายท่านมักบอกว่า พวกเขาจะใช้เตียรอยด์เพียงช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น แต่สเตียรอยด์ทำให้ผู้ใช้เกิดอาการเสพติดได้จึงต้องใช้สเตียรอยด์ต่อไปเรื่อยๆ เมื่อหยุดใช้สเตียรอยด์ก็จะมีอาการขาดยา เช่น ไม่อยากอาหาร หดหู่ เหน็ดเหนื่อย เมื่อยล้า นอนไม่หลับ อารมณ์แปรปรวน และเกิดภาวะซึมเศร้า เป็นต้น
สรุป การใช้สเตียรอยด์และฮอร์โมนในการเพิ่มขนาดอวัยวะเพศ
แม้ว่า สเตียรอยด์จะมีประโยชน์หลากหลาย แต่การใช้สเตียรอยด์ควรอยู่ในการแนะนำและการควบคุมของแพทย์อย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงการซื้อยาสเตียรอยด์มารับประทานเองอย่างเด็ดขาดรวมทั้งระมัดระวังการซื้อยาสมุนไพรลูกกลอน
หรือยาชุดแก้เมื่อย ยาชุดแก้หวัด หรือยาที่ไม่มีฉลากกำกับ ที่มักมีการผสมสเตียรอยด์เพื่อหวังผลในการรักษา หากสงสัยว่า มีอาการข้างเคียงจากสเตียรอยด์ควรปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกร
เพื่อสุขภาพที่ดีของน้องชาย สามารถปรึกษาก่อนตัดสินใจผ่านช่องทาง LINE OA ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ เข้ามาติดต่อที่สาขา คลิกที่นี่เพื่อดูสาขาใกล้บ้านคุณ





รับคำปรึกษาเบื้องต้น
สอบถามข้อมูลการรักษาและบริการเพิ่มเติม นัดหมายล่วงหน้า การเดินทางมาคลินิก
LINE:@ETERNITYCLINIC4
Facebook:@Eternityclinicthai
นายแพทย์สืบพงษ์ เอ่งฉ้วน
ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ใบอนุญาตที่ 29458 ให้ไว้ ณ วันที่ 1 เมษายน 2546
เป็นผู้มีความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม สาขาศัลยศาสตร์ เลขที่ 18321/2551
ให้ไว้ ณ วันที่ 10 กรกฎาคม 2551 (General surgeon)
เป็นผู้มีความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม สาขาศัลยศาสตร์ยูโรวิทยา เลขที่
22611/2554 ให้ไว้ ณ วันที่ 1 กรกฎาคม 2554 (Urologist)
ประกาศนียบัตรเวชศาสัตร์ทางเพศ ได้รับการรับรองโดย สมาคมเพศศาสตร์คลินิกและเวชศาสตร์
ทางเพศแห่งประเทศไทย (TACSM)
บทความล่าสุด
การใช้การฝังอุปกรณ์ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ (Penile implants)
ภาวะเสื่อมสมรรถ
เทคนิคการควบคุมการหลั่งเร็ว: การฝึกฝนและการใช้เทคนิคพิเศษ
หนึ่งในปัญหาทาง
การใช้ยาเพื่อเพิ่มความยาวอวัยวะเพศ: ประสิทธิภาพและความปลอดภัย
หยุดที่จะมองข้า
ผลข้างเคียงจากการเพิ่มขนาดอวัยวะเพศ ด้วยการใช้ยาและการผ่าตัด
การมีขนาดอวัยวะ
ขลิบไร้เลือด ต่างจากขลิบปกติอย่างไร
น้องชายมีกลิ่นเ
ขลิบมีกี่แบบ ขลิบแบบไหนดีที่หมอเบียร์แนะนำ
หลายคนยังไม่ทรา
ขลิบดีไหม ข้อดีของการขลิบที่คุณอาจยังไม่รู้
หลายคนอาจสงสัยว
ขลิบคืออะไร ทำไมถึงต้องขลิบหนังหุ้มปลาย
ขลิบคืออะไร ทำไ