เทคฮอร์โมน โดยไม่ต้องผ่าตัดแปลงเพศ

เทคฮอร์โมน

ในปัจจุบันมีผู้คนหลากหลายที่มีความสนใจในการเปลี่ยนแปลงตนเองให้ตรงกับอัตลักษณ์ทางเพศ การ “เทคฮอร์โมน” จึงเป็นหนึ่งในวิธีที่นิยมมาก แต่มีผู้คนไม่น้อยที่ไม่ทราบการเทคฮอร์โมนอย่างถูกต้อง และอาจไปซื้อยามาเทคฮอร์โมนเองจนเกิดอันตรายต่อร่างกาย  หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า “เทคฮอร์โมนเพศ” กันมาบ้าง และเข้าใจกันว่า มันคือ การกินยาคุมกำเนิดในกลุ่มผู้ที่มีเพศกำเนิดเป็นชายแต่ใจเป็นหญิง เพื่อเปลี่ยนแปลงสรีระบางอย่างให้เป็นผู้หญิงได้ โดยไม่ต้องผ่าตัดแปลงเพศ

แต่ในความจริงแล้วการเทคฮอร์โมนเพศนั้นยังใช้ได้กับผู้ที่มีเพศกำเนิดเป็นหญิงแต่ใจเป็นชาย เพื่อเปลี่ยนแปลงสรีระให้มีความเป็นผู้ชายได้ด้วย ผู้ชายข้ามเพศหลายคน แม้จะมีสภาวะจิตใจของความเป็นชายเต็มร้อยแล้วก็ตาม แต่รูปร่าง ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงตามสภาพจิตใจ การใช้ฮอร์โมนเพศชาย

จึงมีบทบาทสำคัญต่อการใช้ชีวิตของผู้ชายข้ามเพศเป็นอย่างมาก เพราะเป็นตัวกำหนดลักษณะความเป็นชาย มีผลให้ร่างกายเปลี่ยนแปลงสรีระและปรับเปลี่ยนรูปร่างหน้าตาจากหญิงให้ตรงกับความเป็นชายอย่างที่ต้องการ ดังนั้นก่อนจะไปเทคฮอร์โมน เราจะพาคุณไปทราบข้อมูลเกี่ยวกับการเทคฮอร์โมนอย่างละเอียด เกี่ยวกับการเทคฮอร์โมนที่หลายคนสงสัยกันในบทความนี้

การเทคฮอร์โมนคืออะไร

การเทคฮอร์โมน คือ การรับฮอร์โมนเพศที่ต้องการเข้าสู่ร่างกาย เพื่อให้สรีระร่างกายเกิดความเปลี่ยนแปลงไปยังเพศที่ตนเองต้องการ หรือที่ได้รับมา โดยการเทคฮอร์โมนสำหรับกลุ่มคนข้ามเพศ หรือ ทรานส์เจนเดอร์ (Transgender) แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่

  1. การเทคฮอร์โมนสำหรับชายเป็นหญิง (Feminizing hormone therapy) หรือที่เรียกว่า หญิงข้ามเพศ (Transwomen) ด้วยการให้ยายับยั้งฮอร์โมนเพศชายเพื่อลด หรือกดฮอร์โมนเพศชายให้น้อยลง และเสริมฮอร์โมนเพศหญิง ได้แก่ ฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) เพื่อให้ฮอร์โมนความเป็นชายไม่เหลือ เพื่อเปลี่ยนสรีระร่างกายให้คล้ายเพศหญิงมากขึ้น เช่น ลดการมีหนวด เครา เปลี่ยนเสียงให้แหลมขึ้น เค้าโครงหน้าตาหวานขึ้น เป็นต้น
  2. การเทคฮอร์โมนสำหรับหญิงเป็นชาย (Masculinizing hormone therapy) หรือที่เรียกว่า ชายข้ามเพศ (Transman) เป็นการเสริมฮอร์โมนเพศชาย ได้แก่ ฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) หรือเทสโทสเทอโรน (Testosterone) โดยจะเข้าไปลดทอน หรือกำจัดฮอร์โมนเพศหญิงที่มีอยู่เดิมให้ค่อยๆ หายไป แล้วเสริมการกระตุ้นฮอร์โมนเพศชายขึ้นมาแทน เพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงทางสรีระคล้ายเพศชายมากขึ้น เช่น มีขน หนวด เครา มีเสียงใหญ่ขึ้น มีกล้ามเนื้อเติบโตและแข็งแรงมากขึ้น และประจำเดือนลดลงปราศจากเลือด เป็นต้น

เทคฮอร์โมน

การเทคฮอร์โมนมีแบบใดบ้าง

การเทคฮอร์โมนสามารถทำได้หลายวิธีขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของสุขภาพร่างกายแต่ละบุคคล รวมทั้งตามคำแนะนำของแพทย์ ได้แก่

  1. รูปแบบยาเม็ดรับประทาน
  2. รูปแบบยาฉีด จะออกฤทธิ์เร็วกว่าแบบรับประทานและออกฤทธิ์ได้นาน โดยผ่านเข้าสู่กระแสเลือดและออกฤทธิ์ได้โดยตรง ทำให้ระดับยาในเลือดค่อนข้างสม่ำเสมอ
  3. รูปแบบการให้ยาฮอร์โมนทาทางผิวหนัง เพื่อให้ยาซึมผ่านผิวหนังเข้าสู่กระแสเลือดและออกฤทธิ์ได้โดยตรง

เทคฮอร์โมน

เลือกฮอร์โมนเพศชายแบบไหนดี

ส่วนใหญ่แพทย์แนะนำแบบฉีดที่ออกฤทธิ์ระยะสั้น เพราะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายได้รวดเร็วและชัดเจน ทั้งยังสามารถปรับขนาดยาได้ง่าย ออกฤทธิ์สม่ำเสมอ โดยหลังการใช้ฮอร์โมนเพศชายไปประมาณ 3-6 เดือน จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลง

แต่สำหรับคนที่ไม่สะดวกหรือมีข้อจำกัดต่อการฉีดยา เช่น กลัวเข็ม หรือต้องเดินทางไปต่างประเทศ และไม่สามารถนำยาฉีดไปได้ แพทย์จะพิจารณาให้ยารูปแบบอื่น เช่น ยากิน ซึ่งยากินจะมีข้อเสีย คือมีผลต่อตับ และได้ผลการเปลี่ยนแปลงช้า หรือยาทา แล้วแต่ความเหมาะสม

เทคฮอร์โมน

อยากเทคฮอร์โมนต้องผ่านเกณฑ์อะไรบ้าง

  • อายุมากกว่า 20 ปี และต้องผ่านการพบจิตแพทย์ 2 ท่านเป็นอันดับแรก เพื่อประเมินว่า ผู้รับบริการต้องการจะเป็นผู้ชายข้ามเพศแน่ๆ เพราะบางครั้งคนไข้ยังไม่มั่นใจในตัวเองว่า ต้องการจะเปลี่ยนแปลงร่างกายหรือไม่ หรือแค่ชอบผู้หญิงเฉยๆ
  • หากอายุ 18 ปีแต่ไม่ถึง 20 ปี ต้องมีผู้ปกครองเซ็นยินยอม และต้องผ่านการพบจิตแพทย์ 2 ท่านเช่นกัน
  • ก่อนรับฮอร์โมนเพศชายต้องผ่านการตรวจสุขภาพและความพร้อมของร่างกายก่อน

เทคฮอร์โมน

การเปลี่ยนแปลงของร่างกายเมื่อ “เทคฮอร์โมน”

เมื่อเข้ารับการเทคฮอร์โมนกับแพทย์เป็นที่เรียบร้อย โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ไปประมาณ 3-6 เดือนหลังเทคฮอร์โมน โดยการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นมีดังนี้

การเปลี่ยนแปลงหลังรับการเทคฮอร์โมนสำหรับหญิงข้ามเพศ

  • สรีระโดยรวมดูเล็กลง
  • กล้ามเนื้อเล็กลง
  • ขนตามร่างกายน้อยลง
  • เสียงเล็กแหลมขึ้น
  • หน้าอกใหญ่ขึ้น
  • มีไขมันสะสมใต้ผิวมากขึ้น
  • ขนาดขององคชาต อัณฑะเล็กลง และส่งผลให้องคชาตแข็งตัวยากขึ้น
  • อารมณ์ทางเพศลดลง
  • ปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้านที่เกิดจากฮอร์โมนน้อยลง

การเปลี่ยนแปลงหลังรับการเทคฮอร์โมนสำหรับชายข้ามเพศ

  • เสียงแตกหนุ่มขึ้น
  • กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น
  • มีขนตามร่างกายมากขึ้น
  • ผิวมัน อาจมีสิวขึ้นง่าย
  • ไข่ตกน้อยลง ประจำเดือนมาน้อยลง จนค่อย ๆ หมดประจำเดือน
  • อาจมีอารมณ์ทางเพศมากและบ่อยขึ้น
  • อาจพบปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้านจากฮอร์โมนเพศชายได้

เทคฮอร์โมน

สรุป เทคฮอร์โมน

ไม่ควรเทคฮอร์โมนด้วยตัวเองเนื่องจากจะมีปัญหาเรื่องความปลอดภัย อย่างไรก็ตามควรเข้ารับฮอร์โมนตามที่แพทย์นัดหมายอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ สำหรับผู้ที่ต้องการเทคฮอร์โมนแนะนำให้ศึกษาหาข้อมูล เพื่อเตรียมพร้อมในการเปลี่ยนแปลงและเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์เฉพาะทาง ได้ที่ นพ.สืบพงษ์ เอ่งฉ้วน “หมอเบียร์” แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเรื่อง กระจู๋ อีเทอร์นิตีคลินิก ศูนย์รวมการดูแลและรักษาโรคสมรรถภาพทางเพศ โรคระบบทางเดินปัสสาวะและระบบสืบพันธ์ทั้งชายและหญิง สามารถ คลิก เพื่อเข้าปรึกษาที่สาขาใกล้เคียง หรือทักสอบถามผ่านทาง Line OA ของทางคลินิกได้เลย

รับคำปรึกษาเบื้องต้น กับ “หมอเบียร์” ฟรี

สอบถามข้อมูลการรักษาและบริการเพิ่มเติม นัดหมายล่วงหน้า การเดินทางมาคลินิก
LINE:@ETERNITYCLINIC4
Facebook:@Eternityclinicthaiสืบพงษ์ เอ่งฉ้วน

นพ.สืบพงษ์ เอ่งฉ้วน “หมอเบียร์”
ศัลยแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะและระบบสืบพันธุ์เพศชาย (Urologist)
ศัลยกรรมทั่วไป (General surgeon)

บทความล่าสุด

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *