ถึงแม้ว่าจู๋จะเป็นสิ่งที่เราลูบคลำ หรือ พิจารณากันอยู่ทุกวี่ทุกวัน แต่ไอจู๋ของเรานั้นยังมีความลับที่ซ่อนอยู่ ไม่น้อยเลยทีเดียว ถึงแม้จะดูแค่เป็นความลับของไอ้จู๋ แต่มันเป็นความลับของต้นกำเนิดมนุษยชาติเลยทีเดียว ลองมาดูกันดีกว่า ว่ามีอะไรบ้าง
1. การแข็งตัวครั้งแรก รู้หรือไม่ว่า ไอจู๋ของเรา แข็งตัวได้ตั้งแต่เราอยู่ในครรภ์ของมารดาเลยนะ ซึ่งจากภาพอัลตร้าซาวด์หลายครั้งจะพบว่า เด็กชายหลายคนกำลังจู๋โด่แข็งตัวเต็มที่เลยทีเดียว ส่วนใหญ่ มักจะเป็นขึ้นเมื่อทารกหลับสนิท ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้หลาย ๆ ครั้งในหนึ่งชั่วโมง
แต่ก็ยังไม่เคยมีผลศึกษาอะไรที่บอกได้ว่าเพราะอะไร ไอจู๋ของเด็กทารกในครรภ์ถึงแข็งตัวขึ้นมา แต่ตามข้อสันนิษฐาน คงเป็นส่วนหนึ่งของการทดสอบในระบบร่างกาย ว่าเราพร้อมที่จะออกมาผจญโลกภายนอกแล้วนั่นเอง
2. แท้ที่จริงแล้ว ไอจู๋เรายาวกว่าที่เราเห็นถึง 2 เท่าเลยนะเออ ซึ่งไอส่วนที่หมกเม็ดอีกครึ่งหนึ่งของกระจู๋ มันอยู่ในร่างการของเรานั่นเอง
3. ความยาวความใหญ่ มันไม่คงที่หรอกนะ โดยค่าเฉลี่ยของประชากรในโลกนี้ ขนาดเมื่อแข็งตัวเต็มที่ จะมีขนาดอยู่ที่ 5.16 นิ้ว (13.12 cm) ส่วนในประเทศไทยจะอยู่ที่ 4 นิ้ว (12.8 cm) แต่รู้หรือไม่ว่า ในแต่ละคนจะวัดขนาดจากการแข็งตัวเต็มที่ในแต่ละครั้ง จะไม่สามารถวัดขนาดที่เท่ากัน
หรือแน่นอนในทุก ๆ ครั้งได้ ซึ่งจะเกิดจากหลายปัจจัย สภาพอากาศ สภาพจิตใจ ความลับอีกหนึ่งเรื่องอวัยวะเพศที่แข็งตัวจากการมีเพศสัมพันธ์ทางปาก หรือ ทางอวัยเพศ จะมีขนาดใหญ่กว่า การแข็งตัวเพราะจินตนาการอย่างแน่นอน
4. ใครว่าขนาดไม่สำคัญ หลายๆ ครั้ง เรามักจะได้ยินคำพูดประมาณว่า ขนาดไม่สำคัญเท่าลีลา แต่จากผลสำรวจจริง ๆ แล้ว ผู้หญิงมีโอกาสจะถึงจุดสุดยอดทางช่องคลอด กับไอจู๋ที่มีขนาดยาว ได้ง่ายกว่าไอจู๋ขนาดเล็ก ซึ่งยังมีผลสำรวจอีกว่า สาว ๆ มักเลือกผู้ชายที่มีส่วนสูงมากกว่าตัวเองมาก เพราะคาดหวังในเรื่องของไอจู๋เช่นกัน
5. ความลับของหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ เมื่ออยู่ในครรภ์หนังหุ้มปลายจะหลอมรวมกับองคชาต หนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชายวิวัฒนาการ จากเนื้อเยื่อชนิดเดียวกันกับปุ่มคริสตอริสในอวัยวะเพศหญิง และเป็นเรื่องจริงที่ว่า การขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศจะทำให้ลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV ลงได้กว่า 50%
6. หากสังเกตเห็นจุดสีเนื้อขึ้นเป็นกลุ่ม ๆ รอบ ๆ ขอบบนขององคชาตไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวล ไม่ใช่เป็นโรคติดต่อทางเพศแต่อย่างใด เป็นแค่อาการเลือดคั่งตามปกติ
7. มีเยอะก็ใช่ว่าจะดี ผู้ชาย 1 ใน 5-6 ล้านคน จะเกิดมาพร้อมกับอาการที่เรียกว่า Diphallus เป็นการซับซ้อนของพันธุ์กรรม ที่ทำให้เกิดมีไอจู๋ 2 อัน และเมื่อต้นปีที่ผ่านมา (2564) ก็พบทารกที่มีอาการ Triphallus (กระจู๋ 3 อัน) เป็นคนแรกของโลก แต่ไม่ต้องอิจฉากันนะ การมีเยอะไม่ทำให้สามารถสนุกกับเรื่องเพศได้ดีขึ้น แต่จะทำให้อวัยวะเพศทำงานได้ไม่เต็มที่เลยซักอัน
8. กระจู๋ไม่มีกระดูก แต่หักได้ เป็นที่รู้กันว่าไอจู๋ของเรานั้นไม่มีกระดูก แต่ก็สามารถเกิดอาการจู๋หัก โดยส่วนมากมักมีสาเหตุมาจากการมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรงรวดเร็ว โดยท่าที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการจู๋หักได้มากที่สุดคือ woman on top หรือผู้หญิงอยู่บน ส่วนท่าที่ตามมาเป็นอันดับสองก็คือ doggy styles นั่นเอง
9. แข็งทุกคืน ในแต่ละคืนไอจู๋ของเราจะมีการแข็งตัวราว ๆ 3-5 ครั้ง ซึ่งยังไม่มีการศึกษาที่แน่ชัดว่าเกิดจากอะไรขึ้น บางทฤษฎีบอกว่าเป็นระบบของร่างกายที่ช่วยไม่ให้เกิดการปัสสาวะรดที่นอน ซึ่งอาจจะไม่ใช่คำตอบที่ดีนัก แต่ก็มีคำอธิบายที่พอเป็นไปได้อีกประการ คือการแข็งตัวของไอจู๋ในเวลานอนมักจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาการนอนหลับฝัน (REM) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สมองจะสร้างความทรงจำหรือจินตนาการในเวลาที่เราหลับ
10. เมื่อมีการแข็งครั้งแรก ย่อมจะต้องมีการแข็งครั้งสุดท้าย มีความเป็นไปได้ที่อวัยวะเพศของศพจะแข็งตัวและผลิตน้ำอสุจิได้ จากการแข็งเกร็งของระบบกล้ามเนื้อหลังความตาย
อ้างอิงและเรียบเรียงบางส่วนจาก
รับคำปรึกษาเบื้องต้น กับ “หมอเบียร์” ฟรี
สอบถามข้อมูลการรักษาและบริการเพิ่มเติม นัดหมายล่วงหน้า การเดินทางมาคลินิก
LINE:@ETERNITYCLINIC4
Facebook:@Eternityclinicthai
นพ.สืบพงษ์ เอ่งฉ้วน “หมอเบียร์”
ศัลยแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะและระบบสืบพันธุ์เพศชาย (Urologist)
ศัลยกรรมทั่วไป (General surgeon)
บทความล่าสุด
การดูแลหลังการขลิบ ดูแลอย่างไรไม่ให้แผลติดเชื้อ
คุณผู้ชายหลาย ๆ
ผลกระทบของการหลั่งเร็วต่อความสัมพันธ์ในคู่รัก ส่งผลเสียอย่างไรบ้าง
หนึ่งในปัญหาทาง
ฝังมุกจากที่อื่นมา หมอเบียร์เอามุกออกได้ไหม
ฝังมุกนั้น ไม่เ
การทำหมันชายดีกว่าวิธีคุมกำเนิดอื่นๆอย่างไร
ปัญหาการตั้งครร
เทคนิคการฝังมุกที่ปลอดภัย
สำหรับคุณผู้ชาย
ความเชื่อผิดๆเกี่ยวกับการฝังมุก
แน่นอนว่าเมื่อม
ฝังมุกเพื่ออะไร หมอเบียร์มีคำตอบ
ถ้าพูดถึงเรื่อง
คำแนะนำก่อนการฝังมุก
ฝังมุก เป็นการน