ความเสี่ยงจากการฝังมุก

ฝังมุกกระจู๋

การฝังมุกเป็นค่านิยมและรสนิยมส่วนบุคคลของผู้ชายที่เชื่อว่าทำแล้วจะช่วยเพิ่มขนาดน้องชายหรือช่วยให้คู่นอนรู้สึกมีความสุข ทำให้ผู้หญิงถึงจุดสุดยอดได้ง่ายขึ้น

แต่จริง ๆ แล้วการฝังมุก คืออะไร อันตรายหรือไม่ มีความเสี่ยงแค่ไหน และจะส่งผลต่อคุณผู้ชายและคู่รักอย่างไรบ้าง บทความนี้จึงขอนำข้อมูลเกี่ยวกับการฝังมุกมีคำตอบมาฝากทุกคนครับ

ฝังมุกกระจู๋

ฝังมุก คืออะไร

การฝังมุก คือ การผ่าตัดฝังวัสดุทรงกลมขนาดประมาณ 3-10 มิลลิเมตร เข้าไปในหนังหุ้มองคชาตแบบถาวร โดยวัสดุที่ใช้ในการฝังมุกจะผลิตจากพลาสติก, แก้ว, ซิลิโคน, โพลีเมอร์ ฯลฯ

ทั้งนี้อาจฝังชิ้นเดียวหรือหลายชิ้นก็ได้ขึ้นอยู่กับความพอใจของแต่ละคน หลายคนเชื่อกันว่าการฝังมุกจะช่วยเพิ่มความรู้สึกขณะสอดใส่และช่วยให้ฝ่ายหญิงถึงจุดสุดยอดง่ายขึ้น

แต่ในความเป็นจริงแล้วขนาดหรือผิวของน้องชายอาจไม่ได้มีผลต่อความรู้สึกขณะมีเพศสัมพันธ์มากนัก เนื่องจากผู้หญิงมีจุดกระตุ้นอารมณ์ทางเพศมากกว่าการสอดใส่เพียงอย่างเดียว

ในขณะเดียวก็มีผู้หญิงหลายคนมองว่าการฝังมุกเป็นสิ่งที่ดูน่ากลัวจนทำให้ความต้องการทางเพศลดลงและไม่กล้ามีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่ฝังมุกมาด้วยเช่นกัน

ฝังมุกกระจู๋

ฝังมุกอันตรายไหม

แม้ปัจจุบันจะมีคลินิกศัลยกรรมสำหรับท่านชายที่มีบริการฝังมุกโดยเฉพาะ ไม่ใช่คลินิกเถื่อน แต่การฝังมุกก็คือการผ่าตัดนำสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกายในบริเวณที่เป็นจุดอ่อนไหวและเต็มไปด้วยเส้นเลือด เส้นประสาท การฝังมุกจึงมีความเสี่ยงตามมาด้วยเสมอ

ทั้งการอักเสบและติดเชื้อบริเวณน้องชาย การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ความเสี่ยงในการเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ทำให้อวัยวะเพศผิดรูป หากเกิดอาการผิดปกติรุนแรงและไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องทันที อาจลุกลามจนมีความเสี่ยงต้องตัดน้องชายทิ้งกันเลยทีเดียว

  • อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บที่อวัยวะเพศของคู่นอน เช่น เลือดออก เป็นแผลในช่องคลอด
  • อาจเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองใน หนองในเทียม ซิฟิลิส
  • อาจทำให้เกิดการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
  • อาจเกิดการติดเชื้อบริเวณที่ฝังมุกจนส่งผลเสียในระยะยาว เช่น อวัยวะเพศไม่แข็งตัว อวัยวะเพศผิดรูป เนื้อตาย เกิดภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ มะเร็ง
  • อาจเสี่ยงที่เนื้อเยื่อจะปฏิเสธวัสดุในการฝังมุกและดันออกมานอกอวัยวะเพศหรืออาจทำให้เกิดการติดเชื้อ ซึ่งหากเกิดการติดเชื้อที่รุนแรงจนไม่สามารถรักษาได้ อาจจำเป็นต้องตัดอวัยวะเพศ

ฝังมุกกระจู๋

ความเสี่ยงจากการฝังมุก

แม้ว่าในปัจจุบันจะมีหมอเถื่อนและคลินิกเถื่อนรับฝังมุกจำนวนมากตามช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ รวมถึงมีหลายคนในสื่อออนไลน์พูดถึงการฝังมุกว่าเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มความสุขทางเพศได้จริง ๆ ก็ยิ่งส่งเสริมให้คนหันมาฝังมุกกันมากขึ้น

แต่การฝังมุกก็คือการฝังสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย จึงเป็นอันตรายต่อร่างกายอยู่แล้ว เนื่องจากร่างกายจะสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวออกมาต่อต้านมุกที่ฝังเข้าไป ส่งผลให้เกิดการอักเสบและนำมาสู่การติดเชื้อบริเวณน้องชาย

อย่าลืมนะครับว่าน้องชายของเราเป็นอวัยวะที่มีเส้นเลือดและเส้นประสาทจำนวนมาก หากฝังมุกด้วยอุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐานหรือผ่าตัดฝังมุกในพื้นที่ที่ไม่ได้ผ่านการฆ่าเชื้อมาก่อน อาจเสี่ยงต่อปัญหาต่าง ๆ ได้ง่าย

ไม่ว่าจะเป็นมุกหรือลูกเหล็กที่ใช้ฝังขึ้นสนิม, เสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ รวมถึงเพิ่มโอกาสเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ง่ายขึ้น ทั้งหนองใน หนองในเทียม โรคซิฟิลิส (Syphilis) และอื่น ๆ อีกมาก

หากปล่อยให้น้องชายติดเชื้อเป็นเวลานานก็จะมีผลต่อการแข็งตัวที่ยากขึ้น อวัยวะเพศผิดรูปไปจากเดิม หลายคนอาจมีปัญหาหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หรืออาจรุนแรงถึงขั้นมีเนื้อตาย อวัยวะเพศเน่าและพัฒนามาเป็นมะเร็งองคชาตซึ่งจะต้องตัดน้องชายทิ้งเพื่อรักษาโรคอีกด้วย

นอกจากนี้ยังมีผลกับฝ่ายหญิงด้วยนะครับ เพราะมุกจะเสียดสีบริเวณผนังช่องคลอดจนมีเลือดไหลออกมาซึ่งก่อให้เกิดการระคายเคือง เป็นแผลอักเสบและติดเชื้อในช่องคลอดจนพัฒนามาเป็นมะเร็งปากมดลูกในที่สุด

ฝังมุกกระจู๋

ฝังมุกแล้วมีผลเสียอย่างไรกับอีกฝ่าย

การฝังมุกไม่ได้ส่งผลแค่กับร่างกายของผู้ชายเพราะยังมีผลต่อผู้หญิงด้วย เม็ดมุกอาจเสียดสีกับผนังช่องคลอดระหว่างร่วมรักจนเกิดบาดแผล มีเลือดออก ก่อให้เกิดการระคายเคือง เกิดความเสี่ยงต่อการอักเสบและติดเชื้อในช่องคลอด

การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ หากรุนแรงมากอาการเหล่านี้สามารถกลายเป็นมะเร็งปากมดลูกได้ นอกจากนี้ยังส่งผลต่อจิตใจ ผู้หญิงบางคนอาจกลัว ไม่คุ้นเคย และไม่มีความสุขเมื่อต้องร่วมรักกับผู้ชายฝังมุก

สรุป ความเสี่ยงจากการฝังมุก

การฝังสิ่งแปลกปลอม และ การฉีด ปัจจุบันไม่ได้รับการรับรองทางการแพทย์  2 สิ่งนี้ เป็นอันตรายมาก โดยเฉพาะถ้ากลุ่มวัยรุ่นทำกันเองที่บ้าน อุปกรณ์ที่ใช้ พื้นผิวที่ทำ และอุปกรณ์ในการฝังหรือ ฉีด อาจไม่ได้ผ่านการทำความสะอาด ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อ

จากประสบการณ์ที่พบผู้ป่วย ทราบว่า วัยรุ่นชายส่วนใหญ่นิยมฉีดเพิ่มขนาดอวัยวะเพศ แต่ฝากเตือนว่า เมื่อฉีด ผ่านไประยะหนึ่ง สารเหลวจะทำปฏิกิริยากับกล้ามเนื้อและทำให้เกิดการติดเชื้อได้

เมื่อติดเชื้อ ก็จะส่งผลระยะยาว คือ อวัยวะเพศมีโอกาสไม่แข็งตัว หรือ ผิดรูป คุณหมอบอกว่า บางรายโชคร้าย อาจเกิดเนื้อตายที่บริเวณผิวของอวัยวะเพศ ถ้าหากรักษาไม่ได้ อาจจะต้องตัดทิ้ง การจะทำอะไรกับอวัยวะเพศ

ควรปรึกษาแพทย์ศัลยกรรมเฉพาะทาง เพราะ การฉีดอวัยวะเพศ ถือเป็นการรักษาสำหรับผู้ที่มีปัญหา เฉพาะทาง ซึ่งตามหลักการแพทย์ มีเกณฑ์พิจารณาว่าจะทำให้ใครบ้าง ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรงสอบถามหมอเบียร์ได้ที่ Line OA หรือ เข้ามาสอบถามที่สาขาใกล้บ้านท่าน คลิกเพื่อดูสาขาที่นี่

รับคำปรึกษาเบื้องต้น กับ “หมอเบียร์” ฟรี

สอบถามข้อมูลการรักษาและบริการเพิ่มเติม นัดหมายล่วงหน้า การเดินทางมาคลินิก
LINE:@ETERNITYCLINIC4
Facebook:@Eternityclinicthaiสืบพงษ์ เอ่งฉ้วน

นพ.สืบพงษ์ เอ่งฉ้วน “หมอเบียร์”
ศัลยแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะและระบบสืบพันธุ์เพศชาย (Urologist)
ศัลยกรรมทั่วไป (General surgeon)

บทความล่าสุด

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *