ภาวะน้องชายแข็งค้างหรือจู๋แข็งค้าง (Priapism) คือ ภาวะผิดปกติที่เกิดกับอวัยวะเพศ และน้องชายอาจจะมีอาการแข็ง เกร็ง ค้าง ขึ้นมาเองโดยไม่ได้มีการกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ
นอกจากการควบคุมของร่างกายเกิดขึ้นแบบที่ตัวเองไม่ได้ตั้งใจที่จะให้เกิดขึ้น และจู๋จะแข็งค้างอยู่ได้นานตั้งแต่ 4 ชั่วโมงขึ้นไป (คนเป็นส่วนน้อย มักจะนิยามว่า เกิดนานตั้งแต่ 6 ชั่วโมงขึ้นไป) ผู้ป่วยมักไม่สามารถแก้ไขอาการนี้ให้เป็นปกติได้ด้วยตนเอง
น้องชายแข็งค้างสามารถเจอได้ทุกวัย ตั้งแต่เด็กตลอดจนถึงคนสูงอายุ และจะเจอได้บ่อยกว่าใน 2 ช่วงอายุ ในเด็กจะเจอในอายุประมาณ 5-10 ปี ในผู้ใหญ่พบได้ในช่วงอายุ 20-50 ปี ในแต่ละปีทั่วโลก พบภาวะน้องชายแข็งค้างได้ในผู้ชายเฉลี่ยอายุแล้วประมาณ 1.5 รายต่อประชากรชาย 1 แสนคน
และพบเจอได้สูงขึ้นในผู้ชายที่อายุประมาณ 40 ขึ้นไป หรือ 2.9 รายต่อประชากรชาย 1 แสนคน ทั้งนี้ไม่พบชัดเจนว่าโรคนี้มีความสัมพันธ์กับเชื้อชาติ แต่ปัจจัยที่เสี่ยงปัจจัยนึงของโรคนี้คือ ผู้ป่วยที่เป็นโรคเม็ดเลือดแดงรูปเคียว เป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบมากในผู้คนชาวอเมริกันผิวดำ
น้องชายแข็งค้างมีกี่รูปแบบและสามารถเกิดขึ้นได้อย่างไร
ภาวะน้องชายแข็งค้างมี 3 ชนิด
1. ชนิดขาดเลือด (Ischemic priapism หรือ Low flow priapism) เป็นชนิดขาดเลือดที่สามารถพบได้ค่อนข้างบ่อยที่สุดคร่าว ๆ ประมาณร้อยละ 95 ของผู้ชายที่เกิดน้องชายแข็งค้างทั้งหมด เกิดจากหลอดเลือดดำในเนื่อเยื่อด้านบนของน้องชาย เกิดการคลายตัวต่อเนื่องและไม่สามารถหดตัวกลับเป็นปกติได้
จึงส่งผลให้เกิดเลือดขังค้างในหลอดเลือดน้องชายต่อเนื่อง และไม่สามารถไหลเวียนกลับเข้าสู่หัวใจได้ตามปกติ จึงทำให้เกิดเป็นภาวะน้องชายแข็งค้าง/แข็งเกร็งขึ้น
เพราะเลือดที่ค้างอยู่เป็นเลือดดำและไม่มีการไหลเวียนเลือดได้ตามปกติ จึงทำให้เลือดขาดออกซิเจน ส่งผลให้เนื้อเยื่อของน้องชายขาดเลือด ส่งผลตามมาที่ทำให้เกิดการเจ็บและปวดน้องชายอย่างมาก และถ้าการเกิดการแข็งค้างตั้งแต่ 4 ชั่วโมงขึ้นไป จะทำให้เนื่อเยื่อของน้องชายเริ่มตาย ส่งผลกระทบให้ร่างกายตอบสนองโดยเกิดเป็นพังผืด
และถ้ายิ่งแข็งค้างเกิน 24 ชั่วโมง จะทำให้มีโอกาสเกิดเซลล์เนื้อเยื่อตาย และจู๋หรือน้องชายก็จะกลายเป็นพังผืดแบบถาวรจะยิ่งสูงขึ้น และจะนำไปสู่ภาวะนกเขาไม่ขันและจะเกิดการการหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้สูงถึง 90% ซึ่งจู๋แข็งค้างชนิดนี้ ผู้ป่วยจะเจ็บ/ปวดน้องชายมากแล้วต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลโดยทันที
2.ชนิดไม่ขาดเลือด(Nonischemic priapism หรือ High flow priapism) เป็นชนิดพบเจอได้น้อย พบได้ประมาณ5% เกิดจากมีการฉีกของหลอดเลือดแดงในเนื้อเยื่อน้องชาย เช่น มีหลอดเลือดแดงในน้องชายเกิดการโป่งพองแล้วเกิดการแตกหรือรั่ว มีการบาดเจ็บของน้องชายหรือที่ฝีเย็บ เช่น การขี่จักรยานแล้วเกิดการถูกกระแทก หรือการผ่าตัดต่างๆที่น้องชาย จู๋แข็งค้างชนิดเป็นการคั่งของเลือดแดงที่ไหลออกจากหลอดเลือดแดง แต่ไม่ได้เกิดจากการไหลเวียนของระบบเลือดของน้องชาย จึงไม่ส่งผลกระทบให้เนื้อเยื่อตรงส่วนของน้องชายขาดเลือดและไม่ก่อให้เกิดพังผืด เป็นชแบบที่ไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษาเร่งด่วน ลักษณะของจู๋แข็งค้างชนิดนี้ จู๋ จะตั้งชู แต่จะไม่แข็งทื่อหรือไม่แข็งเกร็ง จึงไม่ก่อให้เกิดการเจ็บปวดของจู๋หรือน้องชาย
3. ชนิดขาดเลือดย้อนกลับเป็นซ้ำ (Recurrent ischemic priapism ย่อว่า RIP หรือ Recurrent priapism) เป็นชนิดที่สามารถพบเจอได้น้อย แต่มักจะพบในผู้ที่มีประวัติของพันธุกรรมที่เป็นโรคเม็ดเลือดแดงรูปเคียว เกิดจากตะกอนของเม็ดเลือดแดงที่ผิดปกติและปิดกั้นหลอดเลือดดำในเนื้อเยื่อของน้องชาย
แล้วจึงส่งผลกระทบให้มีการเกิดเลือดดำคั่งในน้องชายจึงทำให้เกิดอาการ จู๋หรือน้องชายแข็งค้างชนิดขาดเลือด แต่เป็นอาการที่มีความรุนแรงน้อยกว่า คือ เจ็บปวดน้อยกว่า และระยะเวลาของการแข็งค้างสั้นกว่า นานไม่เกิน 3 ชั่วโมง มักจะเกิดในช่วงนอนหลับกลางดึก และจะมีการเกิดนำก่อนเกิดอาการชนิดขาดเลือดรุนแรง คร่าวๆประมาณร้อยละ 30 ของผู้ที่มีอาการป่วยนี้
และอาจมีอาการจะเดินหน้าต่อไป (Progression) เป็นน้องชายหรือจู๋แข็งค้างชนิดขาดเลือดที่แท้จริงชนิดแบบที่มีอาการรุนแรง แล้วยังพบว่าร้อยละ 70 ของผู้ป่วยที่เป็นโรคเม็ดเลือดแดงรูปเคียว ที่เกิดจู๋หรือน้องชายแข็งค้างชนิดที่ขาดเลือดแท้จริง ผ้ป่วยบางคนเคยมีอาการชนิดเกิดที่เป็นแบบซ้ำๆนี้มาก่อน อาจจะนำมาก่อนได้หลายครั้ง และถึงแม้ชนิดที่กลับเป็นซ้ำนี้จะมีอาการอยู่คร่าวๆน้อยกว่า 3 ชั่วโมง แต่ก็ส่งผลให้เกิดพังผืดในเนื้อเยื่อของน้องชายได้ และนำไปสู่ภาวะนกเขาไม่ขันหย่อนสมัครถภาพทางเพศได้ประมาณร้อยละ 29-48
ปัจจัยเสี่ยงและสาเหตุให้เกิดจู๋แข็งค้าง
โดยทั่วไปสาเหตุที่จะทำให้เกิดภาวะจู๋หรือน้องชายแข็งค้างชนิดไม่ขาดเลือด เช่น ได้รับการบาดเจ็บของน้องชาย แต่สาเหตุของการเกิดจู๋แข็งค้างชนิดขาดเลือดและชนิดเกิดเป็นซ้ำ แพทย์ยังไม่ทราบเป็นที่ชัดเจน แต่ทราบถึงปัจจัยเสี่ยง
ปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอาการน้องชายแข็งค้างชนิดขาดเลือดและชนิดเกิดเป็นซ้ำ ได้แก่
1.โรคเลือดและมะเร็งโรคเลือดหรือมะเร็งระบบโลหิตวิทยา เพราะจะส่งผลกระทบให้เกิดภาวะเม็ดเลือดแดงแตกได้สูง ที่จะสามารถทำให้เกิดตะกอนของเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำของเนื้อเยื่อบริเวณน้องชาย ที่สามารถเจอได้บ่อย คือ โรคเม็ดเลือดแดงรูปเคียว ส่วนโรคที่พบเจอได้อย่างหลากหลาย เช่น โรคธาลัสซีเมีย ภาวะขาดเอนไซม์จีซิกพีดี มะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งมัลติเพิลมัยอีโลมา
2. ผลข้างเคียงจากยาบางชนิด โดยเป็นยาที่ส่งผลถึงการหดและขยายของหลอดเลือดในเนื้อเยื่อของน้องชาย เช่น ยาที่ส่งผลต่อสารสื่อประสาทต่างๆ เช่น ยาลดความดันโลหิต ยาต้านเศร้า ยาเพิ่มความดันโลหิต ยาฮอร์โมน ยาต้านการแข็งตัวของเลือด ยาเพิ่มความดันโลหิต (เช่น Gonadotropin-releasing hormone) ยาระงับความรู้สึก(Anesthetic drug) ทั้งยาชาเฉพาะที่ เช่น การให้ยาทางน้ำไขสันหลัง หรือ ยาสลบ
3. ยาเสพติดต่างๆ เช่น ยากระตุ้นความบันเทิง รวมถึง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และโคเคน
4. พิษจากสัตว์กัดต่อย เช่น พิษแมงป่อง พิษแมงมุม
5. โรคบางชนิด เช่น โรคพิษสุนัขบ้า โรคไข้จับสั่น โรคเกาต์
6. โรคเกี่ยวกับระบบประสาท เช่น อุบัติเหตุที่ได้รับการกระทบที่ไขสันหลัง โรคปวดหลังจากหมอนรองกระดูกสันหลัง โรคโพรงกระดูกสันหลังเอวตีบแคบ โรคหลอดเลือดสมอง
7.โรคทางจิตเวช เช่น โรควิตกกังวล โรคย้ำคิดย้ำทำ ความเครียด โรคแพนิค
8.โรคมะเร็ง เช่น โรคมะเร็งระบบโลหิตวิทยา มะเร็งระบบอวัยวะเพศชาย เช่น มะเร็งอวัยวะเพศชาย มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น มะเร็งไต มะเร็งท่อปัสสาวะ มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ เนื้องอกมะเร็งสมอง
9.เป็นส่วนน้อยที่แพทย์หาสาเหตุของโรคไม่พบ
ควรจะรักษาจู๋/น้องชายแข็งค้างแบบไหนดี แนวทางการรักษาภาวะจู๋หรือน้องชายแข็งค้าง เช่น
1. ชนิดขาดเลือด
1.1 การประคบเย็นที่จู๋หรือน้องชาย
1.2 การดูดเลือดที่คั่งออกจากเนื้อเยื่อของจู๋หรือน้องชาย
1.3 การใช้ยาบางชนิดฉีดเข้าในส่วนของเนื้อเยื่อน้องชายตรงบริเวณส่วนที่แข็งตัวเพื่อให้เกิดการไหลเวียนเลือด เช่นยา Phenylephrine,Ephedrine Epinephrine Norepinephrine Methylene blue การเลือกใช้ยาตัวใดจะขึ้นกับดุลพินิจของแพทย์เป็นกรณี
1.4 การผ่าตัดทางศัยกรรม จะใช้ในกรณีที่ต้องการรักษาดังกล่าวไม่ได้ผล เช่น การทำทางระบายเลือดออกจากน้องชาย (Cavernoglanular shunt) แต่ถ้าการผ่าตัดวิธีนี้ไม่ได้ผล แพทย์อาจจะต้องรักษาด้วยการผ่าตัดแบบใส่แกนหรือน้องชาย เทียม (Penile Prosthesis)
1.5 การรักษาโรคที่เป็นสาเหตุ เช่น โรคความดันโลหิตสูง
1.6 นอกจากนี้ยังมีมีรายงานประปราย ในการฉายรังสีรักษาปริมาณต่ำตรงบริเวณน้องชาย กรณีการรักษาต่างๆดังกล่าวล้มเหลว หรือผู้ป่วยที่ทำ การผ่าตัดไม่ได้ หรือปฏิเสธผ่าตัด
2. ชนิดไม่ขาดเลือด วิธีการรักษา คือ การประคบเย็น และทำร่วมกับการรักษาสาเหตุ เช่น กรณีที่เกิดการบาดเจ็บโดยการถูกกระแทกที่น้องชาย การรักษานี้จะเป็นการเฝ้าสังเกตอาการ เพราะทั่วไปคร่าวๆ 2/3 ของผู้ป่วยภาวะนี้อาการมักดีขึ้นเอง หรือการรักษาด้วยเทคนิคการฉายรังสีร่วมรักษา เพื่อการใส่สารอุดตันเข้าหลอดเลือดกรณีสาเหตุมีรอยรั่วที่หลอดเลือดของน้องชาย
3. ชนิดกลับเป็นซ้ำ การรักษาจะเป็นวิธีเดียวกันในการรักษาชนิดขาดเลือด ร่วมกับการรักษาควบคุมโรคที่เป็นสาเหตุ เช่น การรักษาโรคเม็ดเลือดแดงรูปเคียว
รับคำปรึกษาเบื้องต้น กับ “หมอเบียร์” ฟรี
สอบถามข้อมูลการรักษาและบริการเพิ่มเติม นัดหมายล่วงหน้า การเดินทางมาคลินิก
LINE:@ETERNITYCLINIC4
Facebook:@Eternityclinicthai
นพ.สืบพงษ์ เอ่งฉ้วน “หมอเบียร์”
ศัลยแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะและระบบสืบพันธุ์เพศชาย (Urologist)
ศัลยกรรมทั่วไป (General surgeon)
บทความล่าสุด
สาเหตุของการที่อวัยวะเพศโค้งงอ
การโค้งงอผิดปกต
วิธีแก้อาการหลั่งเร็ว ทำอย่างไรได้บ้าง
การหลั่งเร็วหรื
น้องชายสั้น อยากยาว ทำไงดี
เล็กสั้นขยันซอย
หย่อนสมรรถภาพทางเพศ คืออะไร รักษาได้ไหม
ปัญหานกเขาไม่ขั
เพิ่มความยาวอวัยวะเพศ ทำได้จริงไหม
ใครว่าความยาวน้
ทำยาวที่หมอเบียร์ ดีกว่ายังไง
ถ้าให้พูดถึงเรื
จู๋สั้นไม่ต้องกังวล หมอเบียร์ทำให้ยาวได้
ผู้ชายหลายคนยัง
ภาวะหลั่งเร็ว สาเหตุเกิดจากอะไร
อาการ ภาวะ หลั่