หนังหุ้มปลายตีบ หรือ Phimosis คืออะไร รักษาอย่างไร

หนังหุ้มปลายตีบ

เมื่อไหร่ที่คุณรู้สึกว่า ปัสสาวะไม่ออก ปัสสาวะลำบาก รู้สึกเจ็บปวดเมื่อน้องชายแข็งตัว หรือปลาย อวัยวะเพศเปิดได้ลำบาก นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนว่าคุณกำลังเจอกับภาวะ หนังหุ้มปลายตีบ

เพราะโดยปกติแล้วเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น หนังหุ้มปลายควรที่จะสามารถรูด จนเผยให้เห็นถึงบริเวณหัวของอวัยวะเพศได้ทั้งหมด และสามารถรูดกลับได้โดยที่ไม่เจ็บหรือลำบาก

ซึ่งภาวะนี้ส่วนใหญ่มักพบในเด็กก็จริง แต่ในผู้ใหญ่ก็สามารถพบปัญหานี้ได้เช่นกัน การที่หนังหุ้มปลายเกิดการอักเสบซ้ำๆจนไม่สามารถรูดลงได้ เกิดแผลเรื้อรังจากเบาหวานที่บริเวณหนังหุ้มปลาย เกิดแผลเรื้อรังที่หัวอวัยวะเพศ เจ็บและมีเลือดออกเวลามีเพศสัมพันธ์

บางครั้งก็มาจากเรื่องการดูแลรักษาความสะอาด ที่ทำได้ไม่ดีพอจากหนังหุ้มปลายที่มีความยาวมากผิดปกติ ก็ล้วนเป็นสาเหตุให้เกิดภาวะหนังหุ้มปลายตีบได้ทั้งนั้น วันนี้หมอจะพามาทำความเข้าใจว่า ภาวะ Phimosis หรือหนังหุ้มปลายตีบ คืออะไร รักษาอย่างไร แล้วข้อสงสัยที่ว่า หนังหุ้มปลายตีบสามารถแก้ได้ด้วยการขลิบจริงหรือไม่

Phimosis หนังหุ้มปลายตีบ

เนื้อหาในบทความนี้

  1. ภาวะหนังหุ้มปลายตีบ คืออะไร
  2. สาเหตุที่ทำให้หนังหุ้มปลายตีบ
  3. วิธีรักษาภาวะหนังหุ้มปลายตีบ
  4. หนังหุ้มปลายตีบแก้ได้ด้วยการขลิบ
  5. สรุป

ภาวะหนังหุ้มปลายตีบ คืออะไร

ภาวะหนังหุ้มปลายตีบ คือ คือภาวะที่ผิวหนังบริเวณปลายอวัยวะเพศหดแคบกว่าปกติ ไม่สามารถรูดเปิดสุดได้ หรือรูดเปิดได้เพียงบางส่วน ภาวะหนังหุ้มปลายตีบสามารถทำให้ปัสสาวะได้ลำบาก ไม่สามารถล้างทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่หมักหมมอยู่ใต้หนังได้ทั่วถึง เป็นอุปสรรคในการมีเพศสัมพันธ์และสุขอนามัย

ทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อโรคต่างๆ เช่น ปลายอวัยวะเพศชายอักเสบ ซึ่งภาวะหนังหุ้มปลายตีบนี้อาจเกิดขึ้นตามธรรมชาติ หรือเกิดขึ้นหลังจากการติดเชื้อ การบาดเจ็บ หรือการอักเสบ

สาเหตุที่ทำให้หนังหุ้มปลายตีบ

1.สุขอนามัยไม่ดี การดูแลสุขอนามัยบริเวณอวัยวะเพศที่ไม่ดี เช่น ล้างไม่สะอาด ไม่ซับให้แห้งหลังอาบน้ำหรือปัสสาวะ อาจทำให้หนังหุ้มปลายตีบ ทั้งยังทำให้ระคายเคืองและติดเชื้อได้

2.ปัญหาสุขภาพผิว เช่น โรคผิวหนังอักเสบ (Eczema) โรคสะเก็ดเงิน โรคไลเคน พลานัส (Lichen planus) ซึ่งเป็นการอักเสบของผิวหนังที่ก่อให้เกิดผื่นคัน โรคไลเคน สเคิลโรซุส (Lichen Sclerosus) ซึ่งเป็นโรคผิวหนังอักเสบที่ส่งผลต่อผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ

3.การติดเชื้อ การติดเชื้อและการอักเสบอาจทำให้หนังหุ้มปลายเกิดแผลเป็น และอาจทำให้ผิวหนังยืดหยุ่นได้น้อยลง เมื่อเนื้อเยื่อบริเวณหนังหุ้มปลายแข็งตัวและไม่อ่อนนุ่มจะทำให้ดึงกลับได้ยาก

4.ภาวะสุขภาพ เช่น โรคเบาหวาน เป็นโรคที่อาจทำให้เกิดการติดเชื้อที่ปลายอวัยวะเพศหรือปลายอวัยวะเพศอักเสบ (Balanitis) และนำไปสู่ภาวะหนังหุ้มปลายตีบได้

5.การบาดเจ็บ บางครั้งหนังหุ้มปลายตีบอาจเกิดจากการดึงและยืดหนังหุ้มปลายอย่างรุนแรง จนทำให้เนื้อเยื่อฉีกขาดและเกิดการอักเสบได้
อาการของภาวะหนังหุ้มปลายตีบ

ปลายอวัยวะเพศที่รัดแน่นเกินไป อาจส่งผลกระทบต่อการปัสสาวะและการมีเพศสัมพันธ์ อีกทั้งทำให้ผิวหนังบริเวณดังกล่าว ทำความสะอาดได้ยากและเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ผู้ที่เจอกับปัญหาดังกล่าว อาจมีอาการดังนี้

  • ปลายอวัยวะเพศและหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศอักเสบ ทำให้มีอาการบวมแดงและรู้สึกเจ็บปวด
  • ปัสสาวะไม่ออกหรือปัสสาวะลำบาก
  • รู้สึกเจ็บปวดขณะปัสสาวะ
  • รู้สึกเจ็บปวดเมื่ออวัยวะเพศแข็งตัว

วิธีรักษาภาวะ หนังหุ้มปลายตีบ

1.ใช้ยาทาเฉพาะที่ ใช้ครีมหรือเจลสเตียรอยด์ทาบริเวณหนังหุ้มปลาย เพื่อให้ผิวหนังบริเวณนั้นนิ่มลงและรูดเปิดได้ง่ายขึ้น หลังใช้ยาประมาณ 2 สัปดาห์ คุณหมออาจแนะนำให้ผู้ป่วยลองรูดหนังหุ้มปลายขึ้นลงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้โดยไม่รู้สึกเจ็บ ควรทำอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้เนื้อเยื่อฉีกขาด

2.ยาปฏิชีวนะ หากหนังหุ้มปลายติดเชื้อ ต้องรักษาด้วยการใช้ยาปฏิชีวนะ เช่น เบต้าเมทาโซน (Betamethasone) ความเข้มข้น 0.05% เพื่อฆ่าเชื้อโรค

3.การผ่าตัด หากอาการหนังหุ้มปลายตีบเกิดจากปลายอวัยวะเพศอักเสบ และรักษาด้วยการใช้ยาทาเฉพาะที่แล้วไม่ได้ผล คุณหมออาจรักษาด้วยการผ่าตัดหรือการขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศโดยการตัดหนังส่วนปลายออกบางส่วน เพื่อให้สามารถรูดเปิดได้ง่ายขึ้น

ขลิบ

ดูข้อมูล ขลิบ เพิ่มเติม

หนังหุ้มปลายตีบ สามารถแก้ได้ด้วยการขลิบจริงหรือไม่

ในทางการแพทย์พบว่า การขลิบจะช่วยรักษาสุขภาพทางเพศที่ดี เพราะบริเวณหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคมากมาย จึงแนะนำให้ขลิบหนังหุ้มปลาย เพื่อประโยชน์ของคุณผู้ชายเอง และมีข้อดีมากมายดังนี้

  1. ลดอัตราการเกิดมะเร็งองคชาต
  2. ป้องกันปัญหาที่องคชาติ เป็นการป้องกันปัญหาหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศตีบหรือหัวอวัยวะเพศอักเสบได้
  3. ง่ายต่อการรักษาสุขอนามัย การขลิบทำให้ง่ายต่อการทำความสะอาด และรักษาสุขอนามัยของอวัยวะเพศ ดังนั้น ผู้ที่ไม่ได้ขลิบอาจจะต้องใส่ใจในการทำงานความสะอาดเป็นพิเศษ
  4. ความเสี่ยงในการติดเชื้อที่ท่อปัสสาวะลดลง การติดเชื้อในท่อปัสสาวะเกิดขึ้นได้ทั่วไป แต่การขลิบจะช่วยลดโอกาสการเกิดได้ เนื่องจากลดการสะสมของเชื้อโรคบริเวณหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ
  5. ลดความเสี่ยงที่จะติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ การขลิบช่วยลความเสี่ยงในการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ รวมถึงการติดเชื้อเอชไอวี (HIV)

สรุป

ถึงแม้ว่าภาวะหนังหุ้มปลายตีบ ไม่ใช่โรคที่ร้ายแรงและสามารถรักษาให้หายได้ แต่ทางที่ดีหากไม่อยากต้องมานั่งรักษา ก็ควรเริ่มจากการป้องกันด้วยการดูแลสุขอนามัยบริเวณอวัยวะเพศ ควรทำความสะอาดทุกวันในระหว่างอาบน้ำ

รวมทั้งดึงหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศให้เปิดออกอย่างช้าๆ สม่ำเสมอ เมื่อทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วควรเช็ดให้แห้งทุกครั้ง ควรหลีกเลี่ยงการใช้สบู่ที่มีน้ำหอมหรือสารระงับกลิ่นบริเวณอวัยวะเพศ เพื่อป้องกันการระคายเคือง

รับคำปรึกษาเบื้องต้น กับ “หมอเบียร์” ฟรี

สอบถามข้อมูลการรักษาและบริการเพิ่มเติม นัดหมายล่วงหน้า การเดินทางมาคลินิก
LINE:@ETERNITYCLINIC4
Facebook:@Eternityclinicthaiสืบพงษ์ เอ่งฉ้วน

นพ.สืบพงษ์ เอ่งฉ้วน “หมอเบียร์”
ศัลยแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะและระบบสืบพันธุ์เพศชาย (Urologist)
ศัลยกรรมทั่วไป (General surgeon)

บทความล่าสุด

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *