ล่มนอกอ่าว!! ทำอย่างไรให้ห่างไกล “ล่มปากอ่าว”

ล่มปากอ่าว คืออะไร? ล่มปากอ่าว หรือ Premature Ejaculation (PE) หรือที่เรียกกันว่าการหลั่งเร็ว นกกระจอกไม่ทันกินน้ำ ฯลฯ คือภาวะที่ฝ่ายชายหลั่งน้ำอสุจิเร็วกว่าปกติหรือไม่สามารถควบคุมการหลั่งได้ขณะที่ปฏิบัติภาระกิจบนเตียง

เป็นปัญหาที่พบได้ในผู้ชายทุกช่วงอายุ และสำหรับอาการแบบไหนที่เรียกว่าหลั่งเร็วนั้น ตามค่าเฉลี่ยการหลั่งน้ำอสุจิของผู้ชายไทยจะอยู่ที่ราว 5-7 นาที แต่ถ้าคุณหลั่งก่อนเวลาที่ 1-2 นาที หรือหลั่งขณะจะทำการสอดใส่ ก็เข้าข่ายล่มปากอ่าวแน่นอน อาการล่มปากอ่าวส่งผลกระทบได้ทั้งในฝ่ายชายและฝ่ายหญิง

โดยในฝ่ายชายนั้นอาการล่มปากอ่าว จะทำให้ผู้ชายที่มีภาวะดังกล่าวมีความรู้สึกกังวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ จนทำให้คู่รักรู้สึกเหมือนมีบางอย่างขาดหายไปส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตคู่ได้ ส่วนในผลกระทบจากภาวะหลั่งเร็วต่อฝ่ายหญิงเองก็อาจทำให้มีอารมณ์ขุ่นเคืองได้ในหลายๆคู่ เนื่องจากฝ่ายหญิงอาจมีอารมณ์ค้างได้

แล้วจะทำอย่างไรเพื่อบอกลา “ล่มปากอ่าว” ได้ล่ะ

จริงๆ แล้วเรื่องปัญหาล่มปากอ่าวหรือการหลั่งเร็ว ไม่ใช่เรื่องแปลกหรือเรื่องร้ายแรงอะไรมากมาย เพียงแต่สังคมมักจะตีตราว่า ผู้ชายที่หลั่งเร็วจะต้องเป็นพวกที่ด้อยสมรรถภาพทางเพศ หรือเป็นพวกไร้น้ำยา จนทำให้คนที่เจอปัญหาเหล่านี้เกิดความรู้สึกเขินอายไม่กล้าปรึกษาแพทย์ รู้สึกเป็นกังวล เครียด ไม่มั่นใจในตัวเองจนถึงขั้นไม่กล้ามีเซ็กส์อีกเลย

หากเป็นเช่นนี้แล้วยิ่งต้องได้รับการรักษา หากขืนปล่อยไว้นานๆ อาจทำให้บานปลายจนมีผลกระทบต่อจิตใจและครอบครัวได้ แน่นอนว่าไม่มีผู้ชายคนไหนที่อยากจะประสบกับปัญหา “ล่มปากอ่าว” จึงได้มีวิธีแก้ไขปัญหาล่มปากอ่าวได้หลายวิธีด้วยกัน แต่จะมีวิธีไหนบ้างไหมที่สามารถช่วยแก้ปัญหานี้ได้และทำให้เรื่องบนเตียงของคุณดีขึ้นลองมาดูกัน

1.การฝึกแก้การหลังเร็วด้วยวิธี “Masters and Johnson Method”

การฝึกวิธีนี้เป็นการฝึกที่จะช่วยควบคุมและป้องกันการหลั่งเร็วด้วยวิธีการช่วยตัวเอง โดยให้เราทำการช่วยตัวเองไปจนกระทั่งใกล้จะเสร็จภาระกิจแล้วให้หยุดพัก รอจนกว่าร่างกายของเราจะผ่อนคลาย จากนั้นเราจึงค่อยเริ่มทำใหม่อีกครั้ง

ให้ทำซ้ำแบบนี้ประมาณ 3-4 ครั้ง และในแต่ละครั้งให้เราพยายามทำให้เข้าใกล้จุดสุดยอดให้มากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ เพื่อจะได้เรียนรู้และสังเกตว่าขีดจำกัดของตัวเราเองอยู่ตรงจุดไหน นอกจากนี้ก็อาจจะลองเปลี่ยนสถานที่หรือเปลี่ยนบรรยากาศบ้างก็ได้ เพื่อฝึกควบคุมและเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเอง เมื่อถึงเวลาที่เราต้องลงสนามจริงจะได้ไม่ตื่นเต้นจนเกิดอาการหลั่งเร็วอีก

2.การใช้ “Squeeze technique” ชะลอการหลั่งเร็ว

เทคนิคนี้เราสามารถใช้ร่วมกับวิธีแรกได้ โดยเมื่อไหร่ก็ตามที่เราใกล้จะถึงจุดสุดยอดหรือรู้สึกว่าใกล้จะหลั่งแล้ว ให้เราใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ของเราบีบตรงโคนหรือหัวของน้องชาย ประมาณ 3-4 วินาที เพื่อที่จะไล่เลือดไม่ให้คั่ง และช่วยให้เราลดอาการตื่นเต้นลงได้ เมื่อความรู้สึกเราได้ลดลงแล้วจึงค่อยเริ่มภารกิจใหม่อีกครั้ง ทำซ้ำแบบนี้ไปเรื่อยๆ โดยผลสำรวจจากผู้ชายที่หลั่งเร็ว เมื่อใช้การฝึกท่านี้ช่วยให้ลดการหลั่งเร็วลงได้มากถึง 50-95% เลยทีเดียว

3.ฝึกเล้าโลมให้เป็น

แทนที่เราจะเริ่มภารกิจด้วยการสอดใส่ในทันที ให้เราลองหันมาเริ่มต้นด้วยการเล้าโลมฝ่ายหญิงก่อนเพื่อลดความเขินอายและความกังวล แต่ก็มีข้อควรระวังคืออย่าเล้าโลมนานเกินไป เพราะนั่นก็อาจทำให้ตัวเราเองเกิดอาการหลั่งเร็วได้เหมือนกัน ดังนั้นเมื่อเรารู้สึกตัวว่าใกล้จะเสร็จภารกิจแล้วให้ชะลอความเร็วลง ลดการปลุกเร้าลาการตื่นเต้น เมื่อความรู้สึกลดลงแล้วค่อยเริ่มทำต่อ การเล้าโลมนอกจากช่วยลดความเขินอายและความกังวลของตัวเราเองแล้ว ยังช่วยให้ฝ่ายหญิงถึงจุดสุดยอดได้เร็วยิ่งขึ้นอีกด้วย

4.การฝึกขมิบก้น

การฝึกขมิบก้น เป็นการช่วยบริหารกล้ามเนื้อหูรูดบริเวณอุ้งเชิงกรานหรือบริเวณรอบทวารหนัก ซึ่งช่วยแก้อาการหลั่งเร็วได้ เราสามารถฝึกทำได้ง่ายๆ เหมือนตอนที่เราอั้นอุจจาระ เมื่อเริ่มขมิบก้นแล้วให้เรานับ 1 ถึง 10 ในใจช้าๆ แล้วคลายออกนับเป็น 1 เซต ให้เราทำแบบนี้วันละ 10 ถึง 15 เซต แนะนำว่าให้เราพยายามหมั่นฝึกบ่อยๆ ทุกวัน

5.การใช้ถุงยางอนามัย

เป็นที่ทราบกันดีว่าการใช้ถุงยางอนามัยช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ และป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ต่างๆ ได้ และยังช่วยชะลอการหลั่งเร็วได้อีกด้วย ส่วนวิธีในการเลือกถุงยางอนามัยให้เหมาะกับคนที่มีอาการหลั่งเร็ว ต้องพิจารณาเลือกจากความหนาของถุงยางเป็นหลัก เพราะจะช่วยลดความรู้สึกลงได้มาก หรือจะเลือกถุงยางที่มีตัวยาช่วยชะลอการหลั่งก็ได้

6.อุปกรณ์ชะลอการหลั่งเร็ว

อุปกรณ์ชะลอการหลั่งเร็วหรือ Cock Ring เป็นห่วงรัดที่โคนน้องชายของเราทำหน้าที่ช่วยควบคุมการไหลเวียนของเลือด ทำให้แข็งตัวได้นานขึ้นช่วยยืดเวลาการเสร็จภารกิจเพิ่มขึ้น

จากวิธีที่เราได้แนะนำไปข้างต้น ทุกคนสามารถทดลองฝึกทำเองก่อนได้ แต่ถ้าหากยังไม่เห็นผลละก็ แนะนำอีกทางเลือกหนึ่ง คือ ควรไปพบแพทย์เฉพาะทาง เพราะในบางรายอาจจำเป็นต้องใช้ยาช่วยรักษา และการที่ผู้ชายเราส่วนใหญ่ยังรู้สึกเขินอายที่จะไปพบแพทย์ก็จะทำให้เสียโอกาสในการได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและรวดเร็ว