ยาที่ใช้ในการรักษาหลั่งเร็ว: ประเภทและการใช้งาน

อาการหลั่งเร็ว หรือ ภาษาพูด คือ นกกระจอกไม่ทันกินน้ำ หรือ เรือล่มปากอ่าว เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในผู้ชายทุกช่วงอายุ และเพราะเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงสมรรถภาพทางเพศ ทำให้ผู้ชายหลายคนเป็นกังวลและไม่กล้าที่จะเข้ามาปรึกษาแพทย์
โดยภาวะนี้

พบได้ในผู้ที่มีประสบการณ์ทางเพศน้อยมากกว่าผู้ที่มีประสบการณ์ทางเพศมาก ในการใช้ชีวิตคู่ อาจมีทั้งการปรับตัวและปัญหาที่ต้องคอยปรับแก้ไขอยู่เสมอ

ซึ่งโดยปัญหาทางเพศส่วนใหญ่ที่มักเกิดกับเพศชายการที่คุณผู้ชายมีอาการหลั่งเร็ว หรือหลั่งไวผิดปกตินั้น นอกจากจะทำให้เกิดความหนักใจระหว่างตนเองและคู่นอนแล้ว ยังอาจสามารถบ่งบอกถึงสภาวะทางร่างกาย หรือปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ซึ่งจะส่งผลเสียด้านอื่น ๆ ตามมาในภายหลัง

การรักษาที่ดีที่สุดสำหรับการหลั่งเร็ว (PE) จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยส่วนบุคคล เช่น สาเหตุพื้นฐาน ความรุนแรงของอาการ และความชอบส่วนบุคคล ต่อไปนี้เป็นการรักษาที่แนะนำโดยทั่วไปสำหรับการหลั่งเร็ว

ยาแก้หลั่งเร็ว

 

การรักษาโดยใช้ยา

ในส่วนของการรักษา และแก้ปัญหาหลั่งเร็วโดยการใช้ยา เหมาะสำหรับผู้ที่อาการรุนแรง อาจมีการหลั่งเร็วเป็นปกติ หรือตลอดเวลา โดยสามารถทำควบคู่กับการไม่ใช้ยาได้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น

และถึงแม้ว่าจะยังไม่มียาที่ได้รับการอนุมัติในสหรัฐอเมริกาสำหรับการรักษาภาวะการหลั่งเร็ว (Premature Ejaculation: PE) โดยเฉพาะ แต่ก็มียาหลายชนิด รวมถึงครีมและสเปรย์ชาที่สามารถช่วยชะลอการหลั่งในผู้ชายที่มีภาวะนี้ ซึ่งมักจะใช้แบบ “off-label” คือใช้สำหรับวัตถุประสงค์อื่นที่ไม่ใช่การรักษาตามที่ยาได้รับอนุมัติ

ยารักษา

 

ยาที่ใช้ในการรักษาหลั่งเร็ว

  • Dapoxetine: เป็นยาชะลอการหลั่งที่ออกฤทธิ์ต่อสารสื่อประสาทซีโรโทนิน (Serotonin) โดยช่วยยืดระยะเวลาการหลั่งและลดความไวในการกระตุ้น ทำให้สามารถควบคุมการหลั่งได้ดีขึ้น
  • Tramadol: เป็นยาลดปวดที่มีฤทธิ์คล้ายมอร์ฟีน (Opioid Analgesic) ซึ่งนอกจากช่วยลดความเจ็บปวดแล้วยังส่งผลข้างเคียงให้การหลั่งช้าลง แต่ควรใช้อย่างระมัดระวังเนื่องจากอาจมีผลข้างเคียงและความเสี่ยงในการเสพติด
  • SSRIs (Selective Serotonin Reuptake Inhibitors): ยากลุ่มนี้รวมถึง Fluoxetine, Sertraline, และ Paroxetine เป็นยาต้านอาการซึมเศร้าที่มีผลข้างเคียงในการชะลอการถึงจุดสุดยอด โดยการเพิ่มระดับสารซีโรโทนินในสมอง ซึ่งสามารถช่วยลดความไวในการหลั่งได้
  • PDE5 Inhibitors (Phosphodiesterase Type 5 Inhibitors): ยาในกลุ่มนี้ เช่น Sildenafil และ Tadalafil มักใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการแข็งตัวของอวัยวะเพศ แต่ในบางกรณีสามารถช่วยรักษาการหลั่งเร็วได้เมื่อมีปัญหาเรื่องการแข็งตัวร่วมด้วย (Erectile Dysfunction)
  • TCA (Tricyclic Antidepressants) เช่น Clomipramine: ยากลุ่มนี้มักใช้ในการรักษาอาการปวดปลายประสาท (Neuropathic Pain) และมีผลข้างเคียงที่ช่วยยืดระยะเวลาการหลั่งได้เช่นกัน
  • Topical Anesthetic Cream (ยาชาเฉพาะจุด): ครีมชาชนิดนี้ เช่น ครีมที่มีส่วนผสมของ Lidocaine หรือ Prilocaine ช่วยลดความรู้สึกไวบริเวณอวัยวะเพศ เพียงทาไว้ประมาณ 20-30 นาทีก่อนการมีเพศสัมพันธ์ และล้างออกก่อนการสอดใส่เพื่อป้องกันการทำให้คู่รักรู้สึกชาเช่นกัน

คำแนะนำการใช้ยา

 

การใช้ยาและคำแนะนำในการใช้

ยาแก้อาการหลั่งเร็ว สามารถใช้ได้ทั้งแบบรับประทานทุกวันหรือเฉพาะก่อนการมีเพศสัมพันธ์ โดยแพทย์จะเป็นผู้แนะนำเวลาที่ควรรับประทานยาตามกิจกรรมของคุณ อย่างไรก็ตาม การหยุดยาอาจทำให้ภาวะการหลั่งเร็วกลับมาอีก ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักต้องใช้ยาต่อเนื่องเพื่อควบคุมอาการ

หากการใช้ยาชนิดหนึ่งไม่ได้ผล แพทย์อาจแนะนำให้ลองใช้ยาชนิดอื่น หรือใช้ร่วมกับการบำบัดอื่น ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา

การใช้ครีมชาหรือสเปรย์ชาบริเวณอวัยวะเพศสามารถช่วยลดความไวได้ แต่ไม่ควรปล่อยให้ครีมหรือสเปรย์อยู่บนอวัยวะเพศในขณะที่มีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอดเนื่องจากอาจทำให้คู่รักรู้สึกชาได้ ควรล้างครีมออกจากอวัยวะเพศประมาณ 5-10 นาทีก่อนการมีเพศสัมพันธ์

การรักษาด้วยยาควรทำภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้มั่นใจว่าการใช้ยาเป็นไปอย่างเหมาะสมและปลอดภัยที่สุด

บำบัดแก้หลั่งเร็ว

 

การให้คำปรึกษาหรือการบำบัด

การให้คำปรึกษาหรือบำบัดกับนักบำบัดทางเพศหรือผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาที่มีคุณสมบัติสามารถช่วยจัดการกับปัจจัยทางจิตวิทยาที่เป็นพื้นฐานซึ่งส่งผลให้เกิดการหลั่งเร็ว เช่น ความวิตกกังวลในเรื่องการแสดง ปัญหาความสัมพันธ์ หรือความเจ็บปวดในอดีต

การให้คำปรึกษาด้านความสัมพันธ์

การหลั่งเร็วอาจส่งผลต่อทั้งสองฝ่ายและอาจส่งผลให้เกิดความทุกข์ในความสัมพันธ์ การให้คำปรึกษาด้านความสัมพันธ์สามารถช่วยปรับปรุงการสื่อสาร ความใกล้ชิด และความเข้าใจซึ่งกันและกัน

การบำบัดแบบผสมผสาน

ในบางกรณี การใช้เทคนิคทางพฤติกรรม ยา และการให้คำปรึกษาร่วมกันอาจมีประสิทธิภาพสูงสุดในการรักษาภาวะหลั่งเร็ว ผู้ให้บริการดูแลสุขภาพของคุณสามารถช่วยพัฒนาแผนการรักษาที่ครอบคลุมซึ่งปรับให้เหมาะกับความต้องการและเป้าหมายเฉพาะของคุณได้

การปรึกษากับผู้ให้บริการด้านการแพทย์ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม เช่น แพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะ ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ทางเพศ หรือจิตแพทย์ เพื่อหารือเกี่ยวกับอาการและทางเลือกในการรักษานั้นถือเป็นสิ่งสำคัญ

การประเมินอย่างละเอียดสามารถช่วยระบุสาเหตุเบื้องต้นของการหลั่งเร็วและระบุแนวทางการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณได้ นอกจากนี้ การสื่อสารอย่างเปิดเผยกับคู่ของคุณเกี่ยวกับความกังวลและความชอบทางเพศถือเป็นสิ่งสำคัญในการแก้ไขปัญหาการหลั่งเร็วและเพิ่มความพึงพอใจทางเพศ

สรุป ยาที่ใช้ในการรักษาหลั่งเร็ว

อาการหลั่งเร็ว เป็นภาวะที่คุณผู้ชายมีการหลั่งภายในระยะเวลาน้อยกว่าอัตราเฉลี่ย ซึ่งเกิดได้จากหลายปัจจัยทั้งภายในและภายนอก ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสารสื่อประสาท ฮอร์โมน หรือพฤติกรรมการบริโภค อารมณ์และความเครียด ซึ่งการหลั่งเร็วนี้อาจส่งผลกระทบในแง่ลบให้กับความสัมพันธ์ทั้งชายและหญิงได้

หากสังเกตว่าตัวเองมีอาการหลั่งเร็ว อาจใช้วิธีแก้เบื้องต้นที่ได้รวบรวมมาต่าง ๆ เพื่อช่วยชะลอการหลั่ง แต่หากผ่านไปสักระยะแล้ว ยังคงมีอาการหลั่งเร็วอยู่ อาจจะต้องเข้ารับการรักษาอาการหลั่งเร็วกับแพทย์เฉพาะทางเพศโดยตรง

เพื่อตรวจหาสาเหตุภายในอื่น ๆ และใช้ยาในการรักษาอาการหลั่งเร็ว ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้เป็นระยะเวลานาน ทั้งนี้ก็เพื่อสุขภาพ และความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคู่นอน

ก่อนการตัดสินใจท่านสามารถปรึกษาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ LINE OA ตลอด 24 ชั่วโมง  หรือติดต่อสาขาใกล้บ้านท่านได้เลยครับ คลิกที่นี่เพื่อดูสาขาทั้งหมด

author avatar
นพ.สืบพงษ์ เอ่งฉ้วน
ใบอนุญาตเลขที่ 29458

รับคำปรึกษาเบื้องต้น

สอบถามข้อมูลการรักษาและบริการเพิ่มเติม นัดหมายล่วงหน้า การเดินทางมาคลินิก
LINE:@ETERNITYCLINIC4
Facebook:@Eternityclinicthaiสืบพงษ์ เอ่งฉ้วน

นายแพทย์สืบพงษ์ เอ่งฉ้วน

ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ใบอนุญาตที่ 29458 ให้ไว้ ณ วันที่ 1 เมษายน 2546

เป็นผู้มีความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม สาขาศัลยศาสตร์ เลขที่ 18321/2551
ให้ไว้ ณ วันที่ 10 กรกฎาคม 2551 (General surgeon)

เป็นผู้มีความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม สาขาศัลยศาสตร์ยูโรวิทยา เลขที่
22611/2554 ให้ไว้ ณ วันที่ 1 กรกฎาคม 2554 (Urologist)

ประกาศนียบัตรเวชศาสัตร์ทางเพศ ได้รับการรับรองโดย สมาคมเพศศาสตร์คลินิกและเวชศาสตร์
ทางเพศแห่งประเทศไทย (TACSM)

บทความล่าสุด

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *