ทำหมันชายกับหญิงต่างกันอย่างไร

ทำหมันชายกับหญิงต่างกันอย่างไร

เกิดประเด็นถกเถียงกันในโลกออนไลน์เมื่อไม่นานมานี้ กับหัวข้อที่ว่า ระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง หาก “ทำหมัน” แล้ว เพศใดจะลำบากกว่ากัน ทั้งในเรื่องการพักฟื้น และค่าใช้จ่าย นำมาซึ่งการแห่แชร์ข้อมูลเกี่ยวกับการ “ทำหมัน” ในมิติต่างๆ อย่างน่าสนใจ

สังคมไทยมักมีความเชื่อว่าผู้ชายที่ “ทำหมัน” แล้ว จะหมดสมรรถภาพทางเพศ หรือผู้หญิงที่ทำหมันก็จะอ้วนขึ้นผิดหูผิดตา ซึ่งไม่เป็นความจริงเลย

ทั้งนี้เพื่อเป็นการคลายข้อสงสัย และเป็นข้อมูลสำหรับผู้ที่สนใจเกี่ยวกับเรื่องการคุมกำเนิด ความจริงเกี่ยวกับการทำหมัน และสรุปข้อมูลเกี่ยวกับการทำหมันทั้งในผู้ชาย และผู้หญิง ได้รวบรวมให้แล้วในบทความนี้ครับ

วิธีทำหมันผู้ชาย

วิธีทำหมันผู้ชาย

ทำหมันสำหรับผู้ชาย มีอยู่ด้วยกัน 2 วิธี ดังนี้

วิธีที่ 1 การทำหมันชายแบบดั้งเดิม

ฉีดยาชาบริเวณหนังอัณฑะส่วนที่บางที่สุด เปิดแผลเพื่อผูก และตัดท่ออสุจิทั้งสองข้าง ตรวจดูว่ามีเลือดออกหรือไม่ จากนั้นจึงเย็บแผล

วิธีที่ 2 การทำหมันแบบเจาะ

ใช้เครื่องมือเจาะบริเวณผิวหนังเพื่อหาท่อทางเดินอสุจิ จากนั้นทำการผูก และตัดท่อทางเดินเชื้ออสุจิ วิธีนี้แผลจะมีขนาดเล็ก ไม่จำเป็นต้องเย็บ
โดยการทำหมันทั้ง 2 แบบ เมื่อทำเสร็จแล้วสามารถกลับบ้านได้เลย ไม่ต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาล

แต่อาจมีผลข้างเคียง เช่น ปวด บวม บริเวณแผลหลังผ่าตัด แต่จะหายเองภายใน 7 วัน ขณะเดียวกันก็อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนทางจิตใจว่าอาจหมดสมรรถภาพทางเพศ ซึ่งหากอาการดังกล่าวยังไม่หายไปก็จำเป็นต้องพบแพทย์ และต้องกลับไปตัดไหมเมื่อการทำหมันครบ 7 วัน

ในส่วนของราคาค่าทำหมันชายนั้น โรงพยาบาลหรือคลินิกแต่ละแห่งก็จะคิดราคาแตกต่างกันไป และในบางครั้งจะมีบริการ “ทำหมันฟรี” ให้บริการด้วย ซึ่งต้องคอยติดตามเงื่อนไขของสถานบริการต่างๆ  ว่าจะมีบริการฟรีช่วงเวลาใดบ้าง ทั้งนี้ราคาการทำหมันชายโดยทั่วไปจะสูงสุดอยู่ที่ 5,000 บาท

ข้อปฏิบัติหลังการทำหมันชาย

ข้อปฏิบัติหลังการทำหมันชาย

  • พักผ่อนอย่างน้อย 1-2 วัน สามารถทำงานได้แต่ยังออกกำลังหนักๆ ไม่ได้
  • ช่วง 7 วันแรก ต้องระวังไม่ให้แผลเปียกน้ำ หากเปียกต้องรีบเช็ดให้แห้ง
  • งดมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 10 วัน เพราะอาจทำให้ไหมที่ผูกปลายท่ออสุจิหลุด

วิธีทำหมันผู้หญิง

วิธีทำหมันผู้หญิง

การทำหมันสำหรับผู้หญิง มี 2 วิธี ดังนี้

วิธีที่ 1 ทำหมันแห้ง

คือ การทำหมันหลังคลอด ทำในช่วง 24-48 ชั่วโมงหลังคลอด แต่ไม่ควรเกิน 7 วันหลังคลอด โดยการผ่าตัดใต้สะดือ ขนาดแผลยาวประมาณ 2-5 ซม. เพื่อหาท่อนำไข่ จากนั้นผูกท่อนำไข่และตัดท่อนำไข่บางส่วนออกทั้งสองข้าง

วิธีที่ 2 ทำหมันเปียก

คือ การทำหมันเวลาใดก็ได้ ทำโดยการผ่าตัดทางหน้าท้องเหนือกระดูกหัวหน่าวเล็กน้อย และใช้วิธีผูก และตัดท่อนำไข่ และจำเป็นต้องใช้ยาสลบ มักไม่ค่อยได้รับความนิยมเนื่องจากมดลูกอยู่ในอุ้งเชิงกราน จึงทำให้หาท่อนำไข่ได้ยากกว่าหลังคลอดบุตร และผ่าตัดได้ยากกว่า

การทำหมันทั้ง 2 แบบ จำเป็นต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาล 1-3 วัน (สำหรับผู้ที่ทำหมันเปียกต้องพักฟื้นหลังคลอดเพิ่ม) มีค่าใช้จ่ายโดยประมาณ 3,000 – 15,000 บาท แตกต่างกันไปตามโรงพยาบาล และคลินิกที่เข้ารับบริการ

ด้านผลข้างเคียง หลังการใช้ยาสลบเพื่อผ่าตัด อาจทำให้รู้สึกคลื่นไส้ หรือเหนื่อย ประมาณ 2 วัน หลังจากการผ่าท้องอาจรู้สึกเจ็บแผลที่ท้อง และอวัยวะข้างเคียงภายในอาจได้รับบาดเจ็บร่วม เช่น มดลูก กระเพาะปัสสาวะ และลำไส้ อาจใช้เวลาประมาณ 7 วัน จะหายเป็นปกติ รวมถึงการมีอาการปวดท้องน้อย หากครบกำหนดแล้วยังมีอาการอยู่จำเป็นต้องพบแพทย์

ข้อปฏิบัติหลังการทำหมันหญิง

ข้อปฏิบัติหลังการทำหมันหญิง

  • สัปดาห์แรกหลังทำหมันยังไม่ควรให้แผลโดนน้ำ และไม่ควรอาบน้ำร้อน
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักๆ หรือกิจกรรมที่ใช้แรงเยอะ เช่น ยกของหนัก
  • งดมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 6-8 สัปดาห์ หรือตามแพทย์แนะนำ
  • สามารถทานยาแก้ปวดได้ตามอาการ แต่หากมีอาการเยอะผิดปกติควรไปพบแพทย์

สรุป ทำหมันชายกับหญิงต่างกันอย่างไร

แม้ว่าการทำหมันตามวิธีข้างต้น จะยังสามารถแก้ไขได้ในภายหลังหากต้องการมีบุตร ผ่าตัดแล้วเย็บท่อนำไข่หรือท่อนำเชื้ออสุจิให้ต่อติดกันเหมือนเดิม แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องยาก และในบางกรณีก็ไม่สามารถแก้หมันได้

ดังนั้นสำหรับผู้ที่ต้องการทำหมันจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน วางแผนครอบครัว และปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาตามมาในอนาคต สามารถเข้ามาปรึกษาหมอเบียร์แพทย์เฉพาะทางได้คลินิคสาขาใกล้บ้านคุณ คลิกที่นี่เพื่อดูสาขาใกล้บ้าน หรือ ทักสอบถามทาง Line OA 

รับคำปรึกษาเบื้องต้น กับ “หมอเบียร์” ฟรี

สอบถามข้อมูลการรักษาและบริการเพิ่มเติม นัดหมายล่วงหน้า การเดินทางมาคลินิก
LINE:@ETERNITYCLINIC4
Facebook:@Eternityclinicthaiสืบพงษ์ เอ่งฉ้วน

นพ.สืบพงษ์ เอ่งฉ้วน “หมอเบียร์”
ศัลยแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะและระบบสืบพันธุ์เพศชาย (Urologist)
ศัลยกรรมทั่วไป (General surgeon)

บทความล่าสุด

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *