การดูแลหลังการขลิบ ดูแลอย่างไรไม่ให้แผลติดเชื้อ

ขลิบไร้เลือด

คุณผู้ชายหลาย ๆ ท่านคงกลัวการขลิบ และอาจจะได้รับฟังประสบการณ์การขลิบที่น่ากลัวจากคนอื่นมา หรือไม่ก็กลัวว่าจะเจ็บ กลัวว่าการดูแลแผลหลังขลิบจะยาก ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นศึกษาการขลิบจากที่ไหนดี ไม่ต้องกลัวไป

เดี๋ยวเราจะอธิบายว่าทำไมการขลิบถึงมีประโยชน์หลายด้านและง่ายต่อการดูแลรักษามาก ๆ สามารถไปอ่านประโยชน์ของการขลิบได้ที่ ขลิบคืออะไร ทำไมถึงต้องขลิบ

และหลังจากการขลิบแล้วควรจะรักษาและดูแลความสะอาดอย่างไร มาอ่านบทความและทำความเข้าใจไปพร้อม ๆ กัน

ขลิบไร้เลือด

สิ่งที่ควรทำหลังการขลิบ

  • ในช่วงสัปดาห์แรกเราควรที่จะทำความสะอาดแผลวันละ 1-2 ครั้ง ทำความสะอาดแผลด้วยเบตาดีนหรือน้ำเกลือให้สะอาด และควรซับให้แห้งทุกครั้งเพื่อลีกเลี่ยงการติดเชื้อนั่นเอง
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่างที่ทุกคนทราบกันอยู่แล้วว่าการผ่าตัดต้องงดดื่ม งดสังสรรค์ การขลิบก็เช่นกันควรงดดื่มแอลกอฮอล์อย่างดีที่สุด 7 วัน เพื่อลดการอักเสบของแผลหลังการขลิบ
  • หลีกเลี่ยงให้แผลโดนน้ำ ไม่ควรให้แผลขลิบโดนน้ำโดยเด็ดขาดหรือถ้าแผลโดนน้ำแล้ว ควรรีบซับให้แห้งทันที เพราะแผลที่โดนน้ำเสี่ยงที่แผลจะติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
  • ใส่เสื้อผ้าที่ไม่รัดรูปจนเกินไป ควรที่จะใส่เสื้อผ้าที่ใส่สบาย ไม่รู้สึกรัดหรือหน่วงที่แผลหลังการขลิบ
  • งดกิจกรรมทางเพศ และสามารถที่จะมีเพศสัมพันธ์ตามปกติได้หลังจากที่ขลิบไปแล้วประมาณ 3 สัปดาห์หรือจนกว่าแผลจะแห้งสนิท
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่หนักจนเกินไป หรือหลีกเลี่ยงงานที่ใช้แรงเยอะ

ขลิบไร้เลือด

แผลติดเชื้อสังเกตได้อย่างไร

เมื่อทำการขลิบไปสักระยะแล้ว เราควรที่จะสังเกตแผลหลังการขลิบว่ามีลักษณะอย่างไร มีลักษณะที่แตกต่างจากหลังผ่าตัดมากน้อยแค่ไหน สังเกตว่ามีหนองหรือเลือดที่แผลหรือไม่ แผลมีลักษณะที่บวมหรือแดงไหม แสบหรือปวดบริเวณแผลหรือไม่

ลักษณะแผลขลิบมีหนองอาจเกิดจากการดูแลรักษาความสะอาดที่ไม่ดีบางรายอาจจะมีไข้สูงได้ หากมีอาการที่ผิดปกติควรติดต่อแพทย์โดยทันที

ขลิบไร้เลือด

หลังจากการขลิบแล้ว ไม่ควรทานอาหารประเภทไหน

  • อาหารประเภทหมักดอง เนื่องจากอาหารเหล่านี้ไม่ได้ผ่านการปรุงสุก จึงเสี่ยงต่อการที่จะติดเชื้อแบคทีเรียได้นั่นเอง
  • อาหารรสจัดหรือรสเผ็ดจนเกินไป อาหารเหล่านี้เมื่อทานไปแล้ว อาจจะทำให้มีเหงื่อออกตามร่างกายมากขึ้น เหงื่อเหล่านี้อาจจะไหลไปโดนแผลขลิบได้ แผลที่โดนเหงื่ออาจจะเสี่ยงการติดเชื้อได้
  • อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ เพราะอาหารประเภทนี้ไม่ได้ปรุงสุกแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ อาหารเหล่านี้อาจจะมีพยาธิ แบคทีเรีย หรือสิ่งแปลกปลอม ซึ่งเสี่ยงที่จะทำให้แผลติดเชื้อได้
  • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้แผลหายช้า และยังกระตุ้นการอักเสบของแผลอีกด้วย

ขลิบไร้เลือด

ขลิบแบบไหนแผลสวย ไม่รู้ว่าเลือกขลิบแบบไหนดี

ถ้ายังลังเลว่าควรเลือกเทคนิคไหนในการขลิบ การขลิบแบบไหนถึงจะดี ลองเปิดใจและเข้ามาปรึกษากับคุณหมอ

เนื่องจากเป็นแพทย์เฉพาะทางมีประสบการณ์การดูแลในเรื่องสุขภาพทางเพศ ระบบทางเดินปัสสาวะ สมรรถภาพทางเพศ มานานถึง 14 ปี

นอกจากนี้คลินิกยังมีลักษณะการขลิบให้เลือกถึง 4 รูปแบบ อีกทั้งเเพทย์ยังเป็นผู้พัฒนาเครื่องขลิบไร้เลือดอัตโนมัติ รุ่นไทเทเนียม (Disposable Staplecircumcision) ซึ่งมีข้อดีคือทำให้การขลิบดูสะอาดไม่มีเลือดเลย

หรือเสียเลือดน้อยกว่าแต่ก่อนเป็นอย่างมาก และมีความปลอดภัยสูงมากอีกด้วย สามารถออกแบบให้เข้ากับอวัยเพศของคุณได้มากที่สุด คลินิกมีบริการให้คำปรึกษาก่อนและหลังขลิบฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย หากสนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ คลิกที่นี่เพื่อติดต่อคลินิก

ขลิบไร้เลือด

สรุปการดูแลหลังการขลิบ

หลังจากที่ทุกคนได้รู้จักวิธีการรักษาหลังขลิบแล้ว ทุกคนคงได้รู้แล้วว่าการดูแลหลังการขลิบถือเป็นปัจจัยสำคัญเป็นอย่างมาก ควรที่จะดูแลเอาใจใส่ การดูแลหลังการขลิบเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด แต่ไม่ต้องกังวลไปว่าหลังจากขลิบแล้วจะดูแลรักษายากเพราะที่ ETERNITY CLINIC พร้อมที่จะให้คำปรึกษาและบอกวิธีการรักษาแผลหลังขลิบตลอดจนกว่าแผลจะหายดีอย่างแน่นอน  หากมีข้อสงสัยหรืออยากได้คำปรึกษา ติดต่อได้ที่ LINE

รับคำปรึกษาเบื้องต้น

สอบถามข้อมูลการรักษาและบริการเพิ่มเติม นัดหมายล่วงหน้า การเดินทางมาคลินิก
LINE:@ETERNITYCLINIC4
Facebook:@Eternityclinicthaiสืบพงษ์ เอ่งฉ้วน

นายแพทย์สืบพงษ์ เอ่งฉ้วน

  • ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ใบอนุญาตที่ 29458 ให้ไว้ ณ วันที่ 1 เมษายน 2546
  • เป็นผู้มีความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม สาขาศัลยศาสตร์ เลขที่ 18321/2551
    ให้ไว้ ณ วันที่ 10 กรกฎาคม 2551 (General surgeon)
  • เป็นผู้มีความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม สาขาศัลยศาสตร์ยูโรวิทยา เลขที่
    22611/2554 ให้ไว้ ณ วันที่ 1 กรกฎาคม 2554 (Urologist)
  • ประกาศนียบัตรเวชศาสัตร์ทางเพศ ได้รับการรับรองโดย สมาคมเพศศาสตร์คลินิกและเวชศาสตร์
    ทางเพศแห่งประเทศไทย (TACSM)

บทความล่าสุด

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *