การขลิบ การเข้าสุนัต ประวัติศาสตร์ที่หลายคนไม่รู้

ประวัติศาสตร์การขลิบหนังหุ้มปลาย

ย้อนไปเมื่อ 4000 กว่าปีก่อน มีการบันทึกภาพเขียนบอกเล่าการเข้าสุหนัต หรือการขลิบอวัยวะเพศในชาวอียิปต์โบราณ ซึ่งเป็นวิถีการปฏิบัติของฟาโรห์และนักบวชในราชสำนัก ทำให้นักโบราณคดีตั้งข้อสงสัยว่าทำไมชาวอียิปต์โบราณมีพิธีการขลิบอวัยวะเพศ

บ้างก็เชื่อว่าเนื่องจากเหตุผลด้านความสะอาด บ้างก็เชื่อว่าเป็นการแสดงการเปลี่ยนผ่านจากเด็กชายสู่ลูกผู้ชาย แท้จริงแล้วสมัยอียิปต์โบราณ การขลิบจะทำทั้งเพศชายและเพศหญิงเมื่อมีอายุครบ 14 ปี ด้วยเหตุผลเพื่อรักษาสุขอนามัย ป้องกันโรค และที่สำคัญยังเป็นวิถีปฏิบัติที่ใช่แยกระหว่างชาวอียิปต์ออกจากคนที่ไม่ใช่ชาวอียิปต์

การขลิบปลายองคชาต สมัยอียิปต์โบราณ

การขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศในเพศชาย เป็นวิถีปฏิบัติต่อเนื่องมาจนกายเป็นสัญลักษณ์ทางศาสนา ในวัฒนธรรมมุสลิมและยิว นอกจากนี้ยังแพร่หลายอย่างกว้างขวางในหมู่ชนเผ่าในแอฟริกา ออสเตรเลีย ชนพื้นเมืองบางกลุ่มในอเมริกาใต้และอเมริกากลาง โดยถือว่า การขลิบเป็นพิธีแสดงการเข้าสู่วัยหนุ่ม และเป็นเครื่องหมายแห่งพันธสัญญาที่มีต่อพระผู้เป็นเจ้า

การขลิบสมัยอียิปต์โบราณ

คำถามยอดฮิต ทำไมชายมุสลิมต้องขลิบ?

อย่างที่กล่าวมาข้างต้น วิถีปฏิบัตินี้เป็นสิ่งที่สืบทอดกันมาทางวัฒนธรรมอย่างยาวนนาน ตั้งแต่ศาสดาอิบรอฮีมสมัยอียิปต์โบราณ การขลิบเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชายมุสลิม เนื่องจากเป็นหลักปฏิบัติที่สืบเนื่องมาจากท่านศาสดามุฮัมมัด และไม่ใช่แต่เฉพาะในประเทศอิสลามเท่านั้น แต่ยังปฏิบัติกันในส่วนอื่นๆของโลกอีกด้วย การขลิบหนังปลายอวัยวะเพศชา ยเป็นกฎของการรักษาความสะอาดข้อหนึ่งในอิสลาม

ชายมุสลิมทุกคน ต้องขลิบหรือไม่? คำตอบคือ ไม่ เนื่องด้วยเหตุผลทางการแพทย์ โดยมีข้อห้ามบางอย่าง เช่น เด็กผู้ชายที่เป็นโรคเลือดหยุดยาก ( Hemophilia ), เด็กที่รูเปิดของท่อปัสสาวะผิดที่ คือแทนที่จะมีที่ปลายสุดของแท่ง แต่ไปมีที่ด้านล่าง ( Hypospadia ) , หรือมีรูเปิดที่ด้านบน ( Epispadia ) ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจทำ

ในทางการแพทย์มองว่า การขลิบมีประโยชน์อย่างไรบ้าง?

  1. การขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ ส่งผลดีในการร่วมประเวณีและทำให้หลุดพ้นจากอันตราย จากการรวมตัวของหนังหุ้มขณะอวัยวะเพศขยายตัว
  2. การขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ ทำให้ลดอันตรายหลังการร่วมประเวณี เพราะหนังหุ้มปลายลึงค์เป็นที่รวมของสิ่งสกปรกหากหมักหมมมากๆ จะมีผลต่อระบบประสาท และเกิดอาการคันรอบอวัยวะเพศ
  3. การมีน้ำปัสสาวะและมีน้ำอสุจิค้างอยู่ภายในปลายลึงค์ที่ไม่ผ่านการขลิบ จะทำให้เสื้อผ้าในร่างกาย เกิดความสกปรก ยิ่งไปกว่านั้น เป็นการลดบทบาทเรื่องความสะอาดในฐานะ “มุสลิม”
  4. ลดอัตราการการติดเชื้อในระบบการขับถ่ายปัสสาวะในเพศชาย
  5. โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หลายการศึกษาทางการแพทย์ได้สรุปว่า พบอุบัติการณ์การอักเสบขององคชาตสูงในผู้ที่ได้ไม่ได้ขลิบหนังปลายอวัยวะเพศ และการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ เช่น ซีฟิลิส โกโนเรีย และ โดยเฉพาะโรคเอดส์ สูงเช่นเดียวกัน
  6. โรคมะเร็ง ความจริงเป็นที่ทราบกันดีว่า อุบัติการณ์การเกิดมะเร็งที่อวัยวะเพศชายลดลงโดยการขลิบปลายหนังอวัยวะ และ อัตราการเกิดมะเร็งปากมดลูกน้อยลงของผู้หญิงที่แต่งงานกับผู้ชายที่ขลิบปลายอวัยวะเพศ

ปัจจุบันยังมีพิธีการขลิบในเพศหญิง อยู่หรือไม่?

พิธีกรรมการขลิบในเพศหญิง ได้แพร่กระจายมาก่อนศาสนาอิสลามจะเข้ามาถึง แต่ไม่มีใครรู้แบบชัดเจนว่า พิธีครอบเหล่านี้เริ่มต้นขึ้นได้อย่างไร ทั้งการขลิบอวัยวะเพศของหญิงและชาย ดูเหมือนจะเป็นวิธีการผ่าตัดที่เก่าแก่โบราณมากที่สุดวิธีหนึ่ง

พิธีขลิบอวัยวะเพศของสตรีเป็นประเพณีโบราณที่เก่าแก่ในหลายวัฒนธรรม หญิงสาวที่เข้าพิธีตัดอวัยวะเพศนี้ เรียกว่าพิธีฟาโรนิค (มาจากภาษาอียิปต์โบราณ เพราะเชื่อกันว่าพิธีกรรมนี้มีต้นกำเนิดมาจากชาวอียิปต์) แปลว่า การเย็บ (มาจากภาษาลาติน ที่แปลว่า เย็บหรือติดเข้าด้วยกัน) ซึ่งมีขั้นตอน 3 ขั้นตอนด้วยกัน ครั้งแรกจะทำระหว่างพิธีการขลิบครั้งแรกเมื่อเริ่มเป็นสาว ครั้งที่ 2 ตอนแต่งงาน และครั้งที่ 3 ระหว่างการคลอดบุตร

พิธีขลิบอวัยวะเพศหญิงถูกโจมตีและถูกประณามอย่างรุนแรง ว่าเป็นการกระทำที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และนำความทนทุกข์ทรมานมาสู่ผู้หญิงจำนวนมากโดยไม่จำเป็น เพราะส่งผลให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมา เช่นเชิงกรานอักเสบบวมเป็นโรคเรื้อรัง บาดทะยักที่มดลูก โรคเนื้อตายที่อวัยวะสืบพันธุ์ ฯลฯ โรคเหล่านี้เคยทำให้อัตราการตายของทารกในแอฟริกาสูงถึง 38 เปอร์เซ็นต์

มีการกล่าวว่าพิธีครอบของสตรี ซึ่งเป็นคำที่ใช้หมายถึงขบวนการแบบต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการตัด การทำอวัยวะสืบพันธุ์ให้พิกลพิการในหมู่ผู้หญิงและเด็กสาวของชนเผ่าดั้งเดิม โดยมีผู้อาวุโสเพศหญิงเป็นผู้ลงมือ และถือว่าเป็นการรักษาประเพณีของเผ่าพันธุ์ จากบทความเรื่อง Circumcision On Trial จากนิตยสาร Reader’s Digest

โดยองค์กรอนามัยโลก ได้เผยแพร่ข้อมูลเมื่อต้นปี 2018 ระบุว่า ผู้หญิงที่ยังมีชีวิตอยู่กว่า 200 ล้านคนทั่วโลกผ่านการตัดหรือทำให้อวัยวะสืบพันธุ์ได้รับความเสียหายในหลายประเทศจากหลายทวีป ไม่ว่าจะเป็นแอฟริกา, ตะวันออกกลาง และเอเชีย

และปัญหาที่เกิดจากการตัดขลิบอวัยวะเพศหญิง เสี่ยงทำให้ติดเชื้อทางเลือดจนอาจถึงขั้นเสียชีวิต และยังมีแนวโน้มทำให้มีอาการปัสสาวะผิดปกติ หรือมีประจำเดือนมากเกินไป ผลกระทบสืบเนื่องไปถึงกิจกรรมเพศสัมพันธ์ หรือขณะคลอดบุตรที่อาจทำให้รู้สึกเจ็บปวดได้ องค์กรอนามัยโลก หรือ WHO ประณามว่าพิธีกรรมดังกล่าวนี้ว่าไม่ควรสนับสนุนให้ปฏิบัติอีกต่อไปด้วยเหตุผลทางการแพทย์

สรุปว่าการขลิบ ดีจริงหรือไม่?

อย่างไรก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้ว่า การขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชาย จะช่วยให้ความสุขระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ที่มากขึ้น จากการที่ไม่มีหนังหุ้มปิด ทำให้รับสัมผัสได้เต็มที่ระหว่างมีเพศสัมพันธ์ ทั้งยังช่วยแก้ปัญหาเรื่อง “หลั่งเร็ว” เพราะเชื่อว่า เมื่อหัวส่วนปลายอวัยวะเพศเปิด ก็จะเสียดสีกับสิ่งรอบข้างตลอดเวลา ลดความไวต่อสัมผัส ลดความรู้สึก ทำให้หลั่งช้าลง และมีข้อดีที่เห็นได้ชัดในด้านสุขภาพ

อวัยวะเพศที่ไม่ได้ขลิบ มีหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศที่สามารถเก็บความชุ่มชื้นไว้ได้ ซึ่งจริง ๆ แล้วนั่นเป็นแหล่งสะสมเชื้อแบคทีเรียที่ดีเลยทีเดียวหากไม่ได้รับการดูแลความสะอาดที่ดีพอ ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อ และยังมีผลให้ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์ด้วยติดเชื้อได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ในด้านความรู้สึกทางเพศ นอกจากนี้ผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์ด้วยกับชายที่ไม่ได้ขลิบกล่าวว่า มีความสุขทางเพศมากกว่าและเจ็บน้อยกว่า ทั้งนี้ทั้งนั้นทางการแพทย์ยืนยันว่า การขลิบปลายอวัยวะเพศนั้นไม่มีผลต่อการมีบุตรอย่างแน่นอน

รับคำปรึกษาเบื้องต้น กับ “หมอเบียร์” ฟรี

สอบถามข้อมูลการรักษาและบริการเพิ่มเติม นัดหมายล่วงหน้า การเดินทางมาคลินิก
LINE:@ETERNITYCLINIC4
Facebook:@Eternityclinicthaiสืบพงษ์ เอ่งฉ้วน

นพ.สืบพงษ์ เอ่งฉ้วน “หมอเบียร์”
ศัลยแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะและระบบสืบพันธุ์เพศชาย (Urologist)
ศัลยกรรมทั่วไป (General surgeon)

บทความล่าสุด

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *