คำแนะนำก่อนการฝังมุก

คำแนะนำก่อนการฝังมุก

ฝังมุก เป็นการนำวัสดุลักษณะกลมๆ เข้าไปตรงใต้หนังของน้องชาย ทำมาจาก พลาสติก แก้ว โลหะ หินมุกแท้ ส่วนใหญ่แล้วในปัจจุบันนั้นจะนิยมการฝังมุกโดยใช้ลูกแก้วขนาดเล็กขนาดเท่ากับเม็ดถั่ว

เพราะแก้วจะมีอายุการใช้งานมากกว่าพวก พลาสติก โลหะ ซิลิโคน ซึ่งวัสดุจำพวกนี้นั้นประสิทธิภาพในการใช้งานจะเสื่อมเร็วมาก การฝังมุกนั้นมีอิทธิพลมาจากผู้ชายในเรือนจำ

ที่มีเวลาว่างมากจึงหาเรื่องพิเรนโดยการใช้ขวดเศษแก้ว มาทุบจนแตก แล้วฝนและฝังเข้าไปที่อวัยวะเพศของตัวเอง สิ่งที่สำคัญที่สุดในการฝังมุกก็คือ การฝังมุกนั้นต้องทำโดยคุณหมอที่ชำนาญหรือเฉพาะทางและถูกวิธี

มุกนั้นต้องไม่มีเชื้อโรคปนอยู่ เพราะอาจจะก่อให้เกิดอาการแพ้และเน่าได้ แต่ขนาดเม็ดมุกที่จะเลือกใช้นั้น ก็มีขนาดประมาณ 0.5–1 เซนติเมตร แต่ขนาดนั้นเราก็ควรพิจารณาตามความสมเหตุสมผลด้วยไม่มากจนเกินไป

ฝังมุกเพิ่งมีในปัจจุบันหรือมีมานานแล้ว

ฝังมุกเพิ่งมีในปัจจุบันหรือมีมานานแล้ว

ประเทศไทยในสมัยอยุธยานั้นมีบันทึก เกี่ยวกับการฝังมุกว่ามีมานานแล้ว 500 กว่าปีในสมัยอยุธยาจากหนังสือเรื่องเซ็กของผู้คนในอดีต ที่เขียนขึ้นมาโดย คุณ สุจิตต์ วงษ์เทศ ได้กล่าวว่า

“การฝังมุกที่อวัยวะเพศนั้นมีต้นกำเนิดจากฝ่ายหญิงในอดีต ซึ่งฝ่ายหญิงในอดีตนั้นได้สั่งฝ่ายชายว่าให้ฝ่ายชายไปทำการฝังมุกหรือเรียกอีกอย่างว่าแต่งอวัยเพศสำหรับกับผู้ที่ยศถาบรรดาศักดิ์สูงหรือขุนนาง

ซึ่งความจริงแล้วเป็นความคิดแบบผิดๆ เพราะผู้คนทั่วไปหรือสามัยชนในอดีตจะใช้ลูกปัดฝังไปในอวัยวะเพศแต่กับผู้ที่มียศสูงๆจะใช้ทองคำที่ทำเป็นเม็ดกลมๆ แล้วจึงทำการใส่ทรายไปเพื่อที่จะทำให้ขณะเดินเกิดเสียงดังกริ๊งๆขึ้นเพื่อบอกกับผู้อื่นว่าตัวเรานั้นมียศสูง”

ฝังมุกแล้วผู้หญิงติดใจจริงไหม

ฝังมุกแล้วผู้หญิงติดใจจริงไหม

ความจริงแล้วนั้นเป็นแค่ความคิดของฝ่ายชายเพียงคนเดียว ที่คิดว่าฝังมุกแล้วจะช่วยกระตุ้นให้อีกฝ่ายมีความสุข และมีความประทับใจขณะทำกิจกรรมทางเพศมากขึ้น

แต่ส่วนใหญ่ของผู้ที่ฝังมุกมักจะเป็นผู้ที่ไม่มั่นใจในขนาดอวัยวะเพศของตัวเอง และจะกังวลว่าฝ่ายหญิงไม่ประทับใจในกิจกรรมทางเพศ ฝ่ายชายจึงต้องหาวิธีที่จะทำให้ฝ่ายหญิงเกิดความประทับใจมากที่สุด

ซึ่งทุกวันนี้เทคโนโลยีและโลกออนไลน์ มีการขายและพัฒนาอุปกรณ์ฝังมุกให้ดีมากขึ้น รวมถึงสอนฝังมุกและรับฝังมุกอย่างหลากหลาย โดยส่วนใหญ่ฝ่ายหญิงมักจะมีความสุขทางเพศกับฝ่ายชายที่มีอวัยวะเพศแบบปกติโดยที่ไม่ฝังมุก

ซึ่งทั่วไปธรรมชาติของฝ่ายหญิงไม่ได้มีจุดกระตุ้นให้เกิดจุดเสียวได้เพียงจุดเดียว แต่ยังมีส่วนอื่นอีกที่สามารถสร้างความประทับใจในการมีเซ็กส์ได้หลายจุด และฝ่ายหญิงทุกคนต้องการกระตุ้นแบบที่นิ่มนวลมากกว่าแบบใช้กำลังหรือซาดิส ยกเว้นในกลุ่มคนที่มีความต้องการทางเพศสูงมากๆหรือส่วนตัวชอบความรุนแรง

ก่อนทำการฝังมุก

ก่อนทำการฝังมุก

  • ดูแลความสะอาดของร่างกายก่อนทำหัตถการ
  • เตรียมจิตใจให้แจ่มใส ไม่กังวล

ปฏิบัติตนอย่างไรก่อนและหลังฝังมุก

ปฏิบัติตนอย่างไรก่อนและหลังฝังมุก

ก่อนฝังมุกนั้นเราต้องดูแลความสะอาดของร่างกายก่อนที่จะฝั่งมุกเพราะอาจจะเกิดเชื้อโรคสะสมอยู่ได้หากร่างกายเราไม่สะอาดและไม่ต้องกังวลว่าจะเจ็บหรือไม่เจ็บทำใจให้สบายๆ หลังทำนั้นก็ห้ามให้แผลโดนน้ำอย่างต่ำ 2-3 วัน แล้วรอให้แผลหายก่อนประมาณ 1 สัปดาห์ หยุดมีเซ็กส์ 14 วัน

ขั้นตอนการทำการฝังมุก

  • ฉีดยาชาเฉพาะที่ ระยะเวลาในการทำหัตถการ 15 – 20 นาที
  • หลังทำสามารถทำงานได้ตามปกติหลังทำ
  • ดูแลอย่าให้แผลโดนน้ำ 3 วัน
  • รอแผลหาย 5 – 7 วัน
  • หยุดการมีเพศสัมพันธ์ 2 สัปดาห์ (เริ่มมีเพศสัมพันธุ์ได้ประมาณ 2 สัปดาห์หลังผ่าตัด)
  • มาพบแพทย์ตามนัด

สรุป คำแนะนำก่อนการฝังมุก

ก่อนการฝังมุก สิ่งแรกที่หมอเบียร์อยากแนะนำให้คนไข้ทำเลยก็คือ การขลิบหนังหุ้มปลาย เนื่องจากการที่จะฝังมุกให้ได้ประสิทธิภาพ หรือให้ช่วยเรื่องกระตุ้นจุดเสียวได้จริงนั้น ต้องมีการวางตำแหน่งมุกให้เหมาะสม

ซึ่งการมีหนังหุ้มปลายเยอะ โอกาสที่ตำแหน่งของมุกจะเคลื่อนหลังการฝังได้ จากการที่หนังหุ้มปลายรูดขึ้นรูดลง แล้วยังทำให้โอกาสที่จะติดเชื้อจากการฝังมุกสูงเกิน 50% อีกด้วย

หมอเบียร์จึงแนะนำคนไข้เสมอว่าให้ขลิบก่อน เพราะช่วยลดโอกาสการติดเชื้อให้เหลือเพียงไม่ถึง 5% เท่านั้น นอกจากนี้วัสดุในการฝังมุกและขนาดก็สำคัญไม่แพ้กัน

โดยวัสดุที่ดีแนะนำให้เป็นวัสดุที่ทำมาจากซิลิโคนเพราะมีความยืดหยุ่นสูง และขนาดของเม็ดมุกควรสัมพันธ์กันกับขนาดของอวัยวะเพศของคุณผู้ชายแต่ละคนด้วยเช่นกัน สนใจสอบถามหมอเบียร์เพิ่มเติมได้ที่ Line OA ตลอด  24 ชั่วโมง หรือ เข้ามาติดต่อที่สาขาใกล้บ้านท่าน คลิกที่นี่เพื่อดูสาขา

รับคำปรึกษาเบื้องต้น กับ “หมอเบียร์” ฟรี

สอบถามข้อมูลการรักษาและบริการเพิ่มเติม นัดหมายล่วงหน้า การเดินทางมาคลินิก
LINE:@ETERNITYCLINIC4
Facebook:@Eternityclinicthaiสืบพงษ์ เอ่งฉ้วน

นพ.สืบพงษ์ เอ่งฉ้วน “หมอเบียร์”
ศัลยแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะและระบบสืบพันธุ์เพศชาย (Urologist)
ศัลยกรรมทั่วไป (General surgeon)

บทความล่าสุด

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *